ตร.เมืองคอน บุกรวบคาบังกะโล ลูกโหดฆ่าพ่อ วัย 88 ปี รัวยิง 8 นัดซ้อน หนีข้ามจังหวัดจากสงขลา มานครศรีฯ อ้างโกรธจนหน้ามืดจำอะไรไม่ได้
เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 16 พ.ย.64 พ.ต.อ.พิศิษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สส.ภ.นครศรีธรรมราช นำตำรวจสืบสวนพร้อมหมายศาลจังหวัดสงขลา ที่ จ.423/2564 ลงวันที่ 16 พ.ย.64 เข้าจับกุมตัว นายเสรีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ซอยคงทรัพย์ 2 ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผู้ต้องหาฐานความผิดฆ่าบุพการี , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน , พกพาอาวุธปืนไปในเมืองที่สาธารณะฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ได้ที่บังกะโลแห่งหนึ่งที่ ต.เสาเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช
โดยขณะกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมพบว่าที่หน้าบังกะโลมีรถ จยย.ของผู้ต้องหาจอดอยู่ จึงกระจายกำลังปิดล้อมก่อนบุกจู่โจมจับกุมตัวไว้ได้ จากนั้นจึงตรวจค้นภายในบังกะโลพบเพียงกระเป๋าและสัมภาระ ก่อนนำตัวนายเสรีย์ ไปทำการตรวจค้นที่ใต้เบาะรถ จยย.พบอาวุธปืนขนาด .45 จำนวน 1 กระบอก มีกระสุนบรรจุเต็มแม็ก เป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ เสื้อผ้าในวันก่อเหตุ รวมทั้งหลักฐานอื่นๆ อีกหลายรายการ จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายเสรีย์ ไปสอบปากคำภายในห้องพักบังกะโลได้ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุยิงพ่อของตัวเองเสียชีวิตที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากนั้นได้ขับขี่รถ จยย.คันดังกล่าวหลบหนีมาจากบ้านพักพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ข้ามจังหวัดมาเช่าบังกะโลใน อ.สิชล เพื่อพักและจะหนีต่อในวันรุ่งขึ้น แต่สุดท้ายขณะกำลังนอนพักผ่อนก็ถูกกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุมได้พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อคืนวันที่ 15 พ.ย.64 ที่ผ่านมา นายเสรีย์ ผู้ต้องหาวัย 60 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายพิศ (สงวนนามสกุล) อายุ 88 ปี พ่อบังเกิดเกล้าเสียชีวิตที่บ้านพักในท้องที่ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง ก่อนนายเสรีย์ จะชักอาวุธปืนออกมายิงใส่พ่อถึง 8 นัดซ้อน จนล้มฟุบสิ้นใจตายคาที่แล้วขี่รถ จยย.หลบหนีไปในคืนเดียวกัน
กระทั่งตำรวจได้สืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแกะรอยจนสามารถจับกุมตัวนายเสรีย์ ไว้ได้พร้อมอาวุธครบมือดังกล่าว และยอมรับว่าได้ก่อเหตุโดยไม่รู้ตัวว่ายิงพ่อไปกี่นัด เนื่องจากโกรธจนหน้ามืดจำอะไรไม่ได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงบันทึกการจับกุมก่อนจะส่งตัวนายเสรีย์ ผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปยัง สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป.
ที่มา khaosod