ฟลุ๊ค – เปิดใจ “ฟลุ๊ค ชัญญ์ณิฏฐ์ ศรีเหรานุกูล” ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวน ของดาราตลก สุเทพ สีใส สาวสวยคนเก่งที่มีดีกรีเป็นถึงนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่รักและภาคภูมิใจในตัวพ่อ อาชีพของพ่อ และเป็นคนกตัญญูช่วยครอบครัว บุกเบิกธุรกิจขายมะม่วงกะปิโหว่

ล่าสุด ฟลุ๊ค ชัญญ์ณิฏฐ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับข่าวสดบันเทิงออนไลน์ เผยทัศนคติดีๆ ให้ฟัง

คุณพ่อเคยพูดเรื่องยีน เรื่องรูปลักษณ์ หน้าตาไหม? “ไม่เคยนะคะ คุณพ่อไม่เคยพูดเลย ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ คือเหมือนเขาสอนเรามาตั้งแต่เด็กมากกว่า ซึ่งตัวเราไม่ได้คิดอะไร เราก็แค่รู้สึกว่านี่ก็พ่อเรา นี่ก็แม่เรา เราก็ภูมิใจของเราเนอะ เพราะว่าพ่อเราก็เลี้ยงเรามาเหมือนกัน เป็นคนหาเงินส่งเสียเรามาตั้งแต่เล็ก เราก็มีความภูมิใจในครอบครัวของเราในระดับหนึ่งมากด้วยแหละ แต่ว่าเขาก็ไม่เคยพูดนะคะ”

เรารู้สึกเขิน ไม่อยากไปโรงเรียนกับพ่อ? “ไม่เคยเลยนะคะ หนูคิดว่าตอนเด็กๆ หนูยังไม่ได้รับรู้โลกภายนอกอะไรเลย หนูคิดว่าเราก็เป็นเด็กคนหนึ่ง เอาจริงๆ หนูคิดว่าคนในวงการเขาก็คือมนุษย์ เขาก็มีชีวิตปกติ ใช้ชีวิตปกติ เวลามีเรื่องอะไร เขาก็สั่งสอนลูกตามปกติ แบบทุกคน หนูก็ไม่ได้ไม่อยากให้พ่อไป คือหนูไม่ยอมไปโรงเรียนด้วยซ้ำ”

ในวัยเด็กเราเคยเจอเพื่อนมาบูลลี่? “หนูไม่ค่อยเจอคนที่จะบูลลี่จริงจังขนาดนั้น เลยไม่ทราบว่าถ้ามีคนมาว่าจริงจัง หนูจะยังไง เพราะตัวเองก็เป็นสายไฟต์อยู่เหมือนกัน ก็คงไม่ยอมแหละค่ะ แต่ว่าถ้าแบบจริงจังยังไม่เคย แต่ว่าถ้าเป็นพูดเล่นๆ ก็มี แต่ก็คือเพื่อน เพื่อนสนิทค่ะ หนูก็เข้าใจนะ คือเพื่อนเขาก็พราวด้วยว่าเขาเป็นเพื่อนเรา แล้วเราเป็นลูกดารานะ เขามีความใกล้ชิดเรา”

ถ้ามีเพื่อนก็ช่วยฟาดเลย? “ใช่ๆ เพื่อนหนูก็พร้อมซัพพอร์ตเสมอ เป็นแบ๊กอัพตลอด”

พ่อกับแม่แอบห่วงความรู้สึกเราในเรื่องนี้? “ไม่ทราบว่าเขาเคยแอบห่วงมั้ย แต่ว่าเขาไม่เคยพูดเลยนะคะว่าเขาห่วงเรื่องนี้ แต่หนูคิดว่าใจจริงๆ เขาก็คงห่วงแหละ เพราะเขาเองก็ไม่ทราบว่าเวลาหนูไปโรงเรียน หรือว่าหนูไปอยู่คนเดียวในสังคมภายนอกหนูจะเจออะไรมาบ้าง แต่ก็โชคดีที่หนูไม่ได้เจออะไร ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรค่ะ”

ดีใจไหมที่สังคมบูลลี่เริ่มหมดไป ใครๆ ก็ไม่ยอมรับคนที่มีทัศนคติแบบนี้? “ใช่ๆ หนูรู้สึกภูมิใจ คือพ่อจะเป็นอะไรหนูก็ภูมิใจหมดแหละ แล้วยิ่งเป็นดาราเป็นคนมีชื่อเสียง เหมือนเราจะรู้สึกดีทุกครั้งที่อาชีพของเขาคือตลก เราจะรู้สึกดีทุกครั้งที่พ่อเราสามารถแบบทำให้คนหัวเราะได้ เหมือนเขาสำเร็จในโกลความเป็นอาชีพของเขา

หนูว่าโอเคนะคะ ที่สังคมมันเปิดกว้างมากขึ้น เหมือนเจเนอเรชั่นใหม่ยอมรับในความแตกต่าง หรือในสิ่งที่คนแต่ละคนเขาเป็นไม่เหมือนกันได้ มันก็เหมือนเป็นการให้เกียรติกันค่ะ หนูคิดว่าเป็นการให้เกียรติ เราไม่ควรไปจัดจ์คนอื่นด้วยไม้บรรทัดของตัวเราเอง แต่หนูคิดว่าเราควรจะมองโลกให้มันกว้างขึ้น โอเพ่นมายด์มากขึ้นค่ะ ดีที่ตอนนี้สังคมเราเปลี่ยนไปมากขึ้น”

คุณพ่อในจอกับนอกจอ มีลุกส์ค่อนข้างที่จะแตกต่างกันไหม? “เวลาอยู่ที่บ้านเขาก็เป็นคนเงียบๆ นะ แต่ว่าเขาก็มีความเฮฮาอยู่ คืออาจจะไม่ได้พูดมากเวลาอยู่บนเวที หรือว่าแสดง แต่เขาก็เฮฮา นะคะ เขาเป็นคนตลก เขาก็อบอุ่นนะ แต่ว่าเวลาเขามีอะไรเขาไม่ค่อยพูด อย่างสมมติถ้าเป็นเรื่องหนูเขาก็จะไปบอกแม่มากกว่า ให้แม่มาบอกหนู เขาคงกลัวว่าบอกไปแล้วหนูจะไม่เข้าใจหรือเปล่า จะน้อยใจหรือเปล่าค่ะ”

คุณพ่อเริ่มหางานในวงการให้เราด้วย? “คุณพ่อไม่เท่าไหร่ เพราะว่าเขาคิดว่าอยากให้หนูเรียนจบปริญญาตรีก่อน อยากให้โฟกัสกับการเรียนมากกว่า แต่ว่าตอนนี้เรียนจบแล้ว หนูไม่เคยเห็นเขาซีเรียสหรือว่าห้ามให้หนูไปออกรายการนะคะ จะมีก็แต่เวลาหนูไม่ตรง ติดเรียน ก็อาจจะไปไม่ได้ คือเป็นแอ๊กซิเดนต์ที่เกิดจากตัวหนูมากกว่า หนูคิดว่าถ้ามีงานเข้ามาจริงๆ หรือว่าหนูได้มีโอกาสตรงนั้นจริงๆ เขาก็น่าจะสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้วค่ะ”

ชีวิตหลังเรียนจบเป็นอย่างไร? “ตอนนี้เรียนจบแล้วค่ะ จบจากภาควิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ ตอนนี้ก็ทำงานอยู่เป็นนักวิจัย แต่ใจจริงๆ เราก็ยังอยากที่จะเรียนต่ออยู่ค่ะ ถ้าเกิดว่ามีช่วงเวลาที่เหมาะสม แล้วเราโอเคก็อาจจะเริ่มไปเรียนต่อ”

เป็นวิจัยเกี่ยวกับอะไร? “เกี่ยวกับโควิดนี่แหละค่ะ เป็นการวิจัยเหมือนตรวจคัดกรองด้วยเทคนิคแมสสเปกโตรเมตรี เช่น ถ้ามีโรงงานใหญ่ๆ เจ้าของโรงงานเขาก็จะตรวจ PCR อาจจะเสียเงินมากถ้าจะส่งลูกน้องเขาทุกคนค่ะ เพราะน้ำยามันแพง ซึ่งเราก็จะตรวจคัดกรองให้เขาแล้วก็ให้เขาทำเหมือน bubble and seal ค่ะ ถ้าเกิดเราคัดกรองแล้วคนนี้เสี่ยงก็แค่ให้เขาไปทำ PCR แค่นั้น จะเป็นการช่วยลดคอสต์ของโรงงานผู้ผลิต แต่ว่าก็ยังเป็นโครงการวิจัยนะคะ”

ค่อนข้างเสี่ยงติดโควิด? “ถามว่าเสี่ยงมั้ย หนูว่าเสี่ยงนะคะ หนูว่าในโรงพยาบาลเป็นที่ที่เสี่ยงมากเลย เพราะเชื้อมันมีหลายอย่างไม่ใช่แค่โควิดค่ะ แต่หนูทำเกี่ยวกับโควิดก็อาจจะเสี่ยงหน่อย ซึ่งเวลาทำงานก็มีการป้องกันทุกอย่าง อย่างดีค่ะ อาจจะไม่ได้ถึงขั้นใส่ชุด PPE แต่ว่าพวกหน้ากาก ปลอกแขน ถุงมือ ก็คือเซฟตี้ของแล็บปกติเลย”

พ่อแม่ห่วงไหม ทำงานเกี่ยวกับโควิดโดยตรง? “ตอนแรกเขาก็ห่วงนะคะ แต่ว่าพอเราอธิบายให้เขาเข้าใจ ว่ามันเป็นงานของเรานะ มีการป้องกัน ทำงานด้วยความไม่ประมาท คุณพ่อคุณแม่เขาก็โอเคขึ้น”
จะทำงานสักกี่ปีก่อน ถึงแพลนเรียนต่อ? “ความจริงคุณพ่อคุณแม่ใจจริงของเขา คือเขาอยากให้เรียนต่ออยู่แล้ว แต่ว่าเขาไม่ได้เป็นไปในเชิงที่มาบังคับเราว่าเราจะต้องเรียนไปทางนี้นะ คือถ้าเราไม่เรียนต่อเขาก็โอเค แต่หนูก็อยากเรียนต่อเองด้วย ส่วนเรื่องสาขาหนูยังไม่ได้ตัดสินใจ ฟันธงขนาดนั้น ด้วยความที่ว่าหนูเองอยากจะลองค้นหาตัวเองด้วย

เพราะว่าสายที่หนูจบมามันประยุกต์ได้ค่อนข้างหลายทางค่ะ ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันค่ะว่าจะลงไปเฉพาะทางสายไหน คงต้องทำงานรอดูไปอีก คือหนูก็ให้เวลากับตัวเองด้วยว่าตัวเราชอบตรงนี้จริงๆ มั้ย เพราะว่าการเรียนต่อป.โท หรือไม่เป็นป.เอกก็ตาม ถ้าเกิดเราเรียนไปแล้วมันก็ค่อนข้างหนักค่ะ ถ้ามันเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ ไม่แฮปปี้แล้ว หนูว่ามันไม่ค่อยคุ้มที่เราจะแลกสักเท่าไหร่”

ลูกสาวเรียนจบมีการมีงานทำแล้ว พ่ออนุญาตให้มีความรักหรือยัง? “หนูคิดว่าเขาก็หวงนะคะ แต่หนูคิดว่าเขาไม่ห้ามค่ะ แค่ว่าเรารู้ว่าสิ่งนี้มันคือสิ่งที่ถูก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ คือเขาก็ปล่อย แต่การปล่อยของเขาคือพยายามตบให้มันอยู่ในกรอบ แต่หนูคิดว่าถ้ามีเขาก็ไม่ว่าอะไรนะคะ”

ส่วนตัวตอนนี้หัวใจว่าง? “ว่างค่ะ ยังไม่มีใครค่ะ”

มีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบ? “มีเข้ามาบ้าง แต่ว่าเหมือนแค่เข้ามาค่ะ หนูก็ไม่ได้คุยต่อ ไม่ได้จริงจังค่ะ”

มีสเป๊กไหม? “หนูว่าชอบแบบไทยๆ มากกว่า แต่ว่าส่วนตัวไม่ค่อยมีสเป๊กเท่าไหร่จะชอบที่ทัศนคติมากกว่า คือส่วนตัวเป็นคนที่ค่อนข้างโอเพ่นมายด์มากๆ เพราะฉะนั้นเราจะชอบคนที่ทัศนคติดีมากกว่า เป็นคนชอบคนแต่งตัวดี ดูมีเทสต์ เพราะว่าเราก็เป็นคนชอบแต่งตัวระดับหนึ่งไง เราเห็นก็จะรู้สึกว่าเราน่าจะเข้ากันได้”

ในไอจีพ่อชอบมาสแกนไหมว่าห้ามเซ็กซี่? “เขาไม่ได้พูดนะคะ แต่ว่าหนูเองก็ไม่ได้ปิดบังเขา หนูลงอะไรเขาก็เข้ามาเห็นตลอดมีกดไลก์บ้าง บางทีก็เข้ามาคอมเมนต์บ้าง แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ห้ามอะไรค่ะ”

ได้ยินว่าออกจากวงการมาขายมะม่วง? “ความจริงไม่ได้ออกจากวงการนะคะ ยังอยู่แต่ว่าตัวธุรกิจที่เป็นมะม่วงกะปิโหว่ เป็นเหมือนธุรกิจของครอบครัวขึ้นมา คุณแม่มีสูตรค่ะก็เลยมาทำ ยังอยู่ในวงการอยู่ ถ้าใครสนใจจ้างได้นะคะ”

ขายดีไหม ช่วงโควิด? “ช่วงโควิดส่วนมากไม่ค่อยได้ออกบูต เน้นไปทางขายออนไลน์มากกว่าค่ะ สั่งทางเพจ ไลน์แอด หรือช้อปปี้มากกว่าค่ะ ก็มีออร์เดอร์เข้ามาเรื่อยๆ ค่ะ ของดี คนติด”

ทำงานไปด้วย แมเนจเวลาได้ยากไหม เวลารับงานวงการ?“ด้วยงานที่หนูทำเป็นงานประจำด้วย แต่ว่าถ้ามันมีงานในวงการจริงๆ หนูคิดว่าน่าจะลาได้ หนูคิดว่าเราน่าจะเมเนจได้ค่ะ ถ้าตัวเราเองคิดว่าไม่หนักเกินไป หรือว่าไม่เกินความสามารถของเราหนูว่าไม่น่าจะจัดการยากค่ะ”

ขอบคุณข้อมลจาก ข่าวสด