- ยอดผู้ป่วยโควิดรายใหม่ใน เนปาล พุ่งสูงแตะ 9,000 รายในหนึ่งวัน โรงพยาบาลไม่เพียงพอ ออกซิเจนขาดแคลน ผู้เชี่ยวชาญห่วงซ้ำรอยประเทศอินเดียเพื่อนบ้าน
- สื่อต่างชาติรายงานการแพร่ระบาดในเบสแคมป์ของนักปีนเขาเอเวอร์เรสต์ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศ ขณะที่รัฐบาลเนปาลปฏิเสธข่าวดังกล่าว สวนทางกับนักปีนเขาที่ยืนยันว่าอาจมีผู้ติดเชื้อมากกว่าที่รายงาน
- เนปาลเผชิญกับปัญหาวัคซีนขาดแคลนหนัก หลังอินเดียผู้ส่งออกวัคซีนรายสำคัญต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดรุนแรง
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในอินเดีย ที่เข้าขั้นวิกฤติ มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากต่อวัน ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประเทศอินเดียเท่านั้น แต่ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างเนปาล ก็ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่แสนสาหัสไม่แพ้กัน ซึ่งชาวอินเดียที่เดินทางเข้ามายังเนปาลยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โควิด-19 เข้ามีระบาดในประเทศ แต่สิ่งที่น่ากังวลคือเนปาลนั้นอาจต้องเผชิญกับวิฤติที่มีแนวโน้มหนักหน่วงกว่าอินเดีย เนื่องจากประเทศเล็กๆในหุบเขาแห่งนี้ มีจำนวนแพทย์ต่อประชากรน้อยกว่าประเทศอินเดีย ส่วนในเดือนที่แล้วเนปาลมีเตียงรักษาผู้ป่วยเหลือราวพันเตียงเท่านั้น ซึ่งสวนทางกับยอดผู้ป่วยรายวันที่พุ่งทะลุ 9,000 ราย โดยการแพร่ระบาดในเนปาล ส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ประชาชนเดินทางเข้าร่วม เทศกาลกุมภเมลา ในอินเดีย และติดโรคโควิด-19 ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้ามาในเนปาล
แม้ว่ามีการประกาศล็อกดาวน์กาฐมาณฑุ ไปก่อนหน้านี้ และระงับเที่ยวบินส่วนใหญ่ไปแล้ว แต่จำนวนผู้ป่วยยังคงสูงขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลของประเทศเนปาลเองได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ารับมือกับโรคระบาดได้ล่าช้า นอกจากนี้ยังมีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนในจำนวนน้อย ส่วนนายกรัฐมนตรีของประเทศได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคที่ไม่ได้รับการยืนยันทางวิทยาศาสตร์
ส่วนอีกปัญหาคือยอดเขาเอเวอเรสต์ฝั่งเนปาล สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่เป็นแหล่งทำเงินให้กันประเทศได้มีรายงานไวรัสโควิด-19 ระบาดในหมู่นักปีนเขา ขณะที่ทางการเนปาลไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดดังกล่าวมากเท่าที่ควร
แพทย์เตือนเนปาลเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ ร้องนานาชาติเข้าช่วย
ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาเนปาลรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันต่ำกว่า 200 ราย แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยอดผู้ติดเชื้อได้พุ่งสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนแตะ 9,000 ราย ต่อวัน ซึ่งเกิดจากการรวมตัวกันในเทศกาลต่างๆ และการควบคุมโรคที่หละหลวม
ด้านแพทย์ในประเทศเนปาลได้สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์ในเนปาลได้เข้าใกล้วิกฤติเข้าไปทุกที โดยโรงพยาบาลการแพทย์และศัลยกรรมขั้นสูงในกาฐมาณฑุ ชี้ว่า เนปาลนั้นมีเตียงไม่เพียงพอที่จะรักษาผู้ป่วยโควิด ขณะที่ต้องเผชิญกับการขาดแคลนออกซิเจนอย่างหนัก และผู้ป่วยต้องต่อคิวรอเข้ารักษาเป็นจำนวนมาก และต้องปฏิเสธการรักษาผู้ป่วยบางส่วน ซึ่งอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่วิกฤติถึงขนาดที่มีประชาชนนอนเสียชีวิตตามถนน
ด้าน สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ระบุว่า ประเทศเนปาลอาจมีชะตากรรมที่คล้ายกับประเทศอินเดีย หากไม่สามารถหยุดการแพร่ระบาดได้ ซึ่งเนปาลมีระบบสาธารณสุขที่เปราะบาง และมีจำนวนแพทย์ต่อจำนวนประชากรน้อยกว่าประเทศอินเดีย รวมถึงมีตัวเลขการฉีดวัคซีนโควิดต่ำ ส่วนการรวมตัวของประชาชนหมู่มากจากการจัดเทศกาลต่างๆ ได้ซ้ำเติมให้สถานการณ์แพร่ระบาดรุนแรงยิ่งขึ้น
โควิดระบาดถึงเอเวอเรสต์
เศรษฐกิจของเนปาลนั้นพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างงานในประเทศ ซึ่งหลังจากที่ได้ยกเลิกฤดูปีนเขาไปเมื่อปีที่แล้ว ในปีนี้เนปาลได้อนุมัตินักปีนเขาจำนวน 403 ราย ให้สามารถปีนขึ้นสู่ยอดเขาเอเวอเรสต์ในปีนี้ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ทำให้เกิดปัญหานักปีนเขาแออัดบนยอดเขา และมีภาพแสดงให้เห็นนักปีนเขาต่อแถวเรียงกันเพื่อขึ้นสู่ยอดเขาเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด ยอดเขาเอเวอเรสต์ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งนี้ ได้เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ในหมู่นักปีนเขาในเบสแคมป์ โดยสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงาน นักปีนเขาพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งสวนทางกับทางการเนปาลที่ระบุว่าไม่ได้เกิดการแพร่ระบาดบนเอเวอเรสต์ ด้านหนึ่งในนักปีนเขาชาวนอร์เวย์ได้ยืนยันว่าเขาป่วยโรคโควิด-19 หลังเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลกาฐมาณฑุ และมีรายงานว่ามีการอพยพนักปีนเขาอย่างน้อย 30 ราย
ไม่ใช่แค่เบสแคมป์ของยอดเขาเอเวอเรสต์เท่านั้น แต่ยอดเขาอื่นๆ อย่างเทือกเขาเดาลากิริ (Dhaulagiri) ซึ่งอยู่ห่างจาก ยอดเขาเอเวอเรสต์ไป 345 กิโลเมตร ก็มีรายงานพบผู้ป่วยโควิดในเบสแคมป์เช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ป่วยเป็นพนักงานทำความสะอาดในเบสแคมป์ และได้รับการอพยพออกจากพื้นที่แล้ว
เบสแคมป์นั้นมีจำนวนนักปีนเขามากกว่าพันคน ทำให้การเว้นระยะห่างทางสังคมนั้นเป็นไปได้ยาก นอกจากนี้กลุ่มนักปีนเขามักจะสังสรรค์ทำความรู้จักกับกลุ่มเพื่อนักปีนเขากลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้บริเวณเทือกเขาสูงยังมีค่าออกซิเจนต่ำทำให้ผู้ที่ติดโรคโควิดแสดงอาการอย่างรวดเร็ว
วัคซีนไม่เพียงพอ
เนปาลได้เริ่มทยอยฉีดวัคซีนโควิดตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่เมื่อประเทศอินดีย ประเทผลิตวัคซีนยักษ์ใหญ่ของโลก และเป็นประเทศที่ส่งวัคซีนไปยังเนปาลต้องเผชิญกับวิกฤติโควิดในประเทศ จนมีวัคซีนโควิดไม่เพียงพอเสียเอง ทำให้ต้องชะลอการส่งวัคซีนไปยังประเทศต่างๆ รวมถึงเนปาล ซึ่งเนปาลได้รับวัคซีนโควิด จากอินเดียเพียงครึ่งหนึ่งจากที่ได้สั่งซื้อไปเท่านั้น
เนปาลมีประชากรราว 30 ล้านคน และมีวัคซีนโควิดจากอินเดียและจีนรวมกันราว 2.4 ล้านโดส ที่ได้ถูกกระจายฉีดให้แก่ประชาชน โดยมีประชาชนจำนวนน้อยที่ได้รับวัคซีนครบทั้งสองโดส
ผู้เขียน: นัฐชา
ที่มา: Aljazeera, ABC, NPR,thairath