เมื่อวันที่ 29 พ.ย.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โควิด 19 ประจำวันว่า สถานการณ์โควิดทั่วโลก หลายประเทศติดเชื้อสูงขึ้น เช่น อังกฤษ ตุรกี เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี แม้ฉีดวัคซีนครอบคลุมสูง บางประเทศเคยผ่อนคลายมาตรการ เปิดร้านอิสระ ยกเลิกใส่หน้ากาก

ตอนนี้กลับมาเข้มมาตรการใหม่ทำให้เกิดการประท้วง ส่วนรอบบ้านเรามาเลเซียลดลงใกล้เคียงประเทศไทย จับตามองเวียดนามที่ติดเชื้อ 1.2 หมื่นราย และลาวเกินพันรายติดต่อกัน 2 สัปดาห์

วนวันนี้ประเทศไทยติดเชื้อ 4,753 ราย หายกลับบ้าน 6,165 ราย เสียชีวิต 27 ราย ตอนนี้ติดเชื้อลดลง แต่ยังคงศักยภาพรองรับผู้ป่วยไว้ อย่างกทม.ยังเปิดศูนย์แยกกักในชุมชน 54 แห่ง มีเตียงรองรับ 6 พันกว่าเตียง อัตราครองเตียงเหลือ 83 ราย

มีคนรับใหม่ 4 ราย กลับบ้าน 12 ราย รพ.สนาม กทม.ยังเหลือ 8 แห่ง รับใหม่ 1 ราย กลับบ้าน 3 ราย เหลือเตียงรองรับกรณีเจ็บป่วยเพิ่มขึ้น

ส่วนผู้เสียชีวิตวันนี้เป็นกลุ่มสูงอายุและโรคประจำตัว 100% มีผู้ป่วยติดเตียง 2 ราย รับเชื้อจากลูกหลานที่เข้าออกบ้าน 80% ติดเชื้อโดยคนใกล้ชิด ส่วนใหญ่อาการรุนแรงจนเสียชีวิตเพราะไม่ได้รับวัคซีน

ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตที่มีประวัติฉีดวัคซีนครบ มีสัดส่วนน้อยกว่า 1% ดังนั้น วัคซีนจะช่วยให้ปลอดภัย ลดอัตราเสียชีวิตชัดเจน

การติดเชื้อวันนี้กระจายหลายจังหวัดทิศทางลดลง สมุทรสาครไม่มีรายงานเลย ลำปาง อำนาจเจริญ ตัวเลขเล็กมาก จังหวัดติดตามใกล้ชิดนอกจาก กทม. และปริมณฑล ยังมี 4 จังหวัดที่ติดเชื้อเกิน 100 ราย คือ สงขลา นครศรีธรรมราช นครราชสีมา และขอนแก่น ส่วนที่ติดเชื้อ 50-100 ราย มี 6 จังหวัด คือ กระบี่ ชุมพร พัทลุง ราชบุรี สระบุรี และสตูล

ส่วน 5 จังหวัดแนวโน้มสูงขึ้น แต่ตัวเลขไม่สูงมาก กรณีเกิน 100 ราย คือ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กรณีน้อยกว่า 100 ราย คือ เชียงราย ลำพูน และสิงห์บุรี อย่างเชียงรายตรวจ ATK ผลบวก 10-20% มาตลอด

คลัสเตอร์สำคัญคือตลาด ลำพูนคือโรงงาน ส่วน 10 จังหวัดรายงานติดเชื้อสูงสุด คือ กทม. นครศรีธรรมราช สงขลา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ สมุทรปราการ ชลบุรี ภูเก็ต ปัตตานี และนครราชสีมา

ทั้งนี้ พื้นที่นำร่องสีฟ้าใหม่วันที่ 1 ธ.ค. ที่ครอบคลุมทั้งจังหวัด คือ นนทบุรี ปทุมธานี กาญจนบุรี บางจังหวัดเปิดบางอำเภอ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ (เปิดเพิ่ม อ.จอมทอง) พระนครศรีอยุธยา (อ.เมือง) ขอนแก่น นครราชสีมา มีหลายอำเภอ สุรินทร์ จันทบุรี ตราด (เกาะกูด) หรือสงขลาเปิดวันที่ 16 ธ.ค.นี้ที่ อ.เมือง สะเดา และหาดใหญ่

การเปิดมีหลายปัจจัยในการพิจารณาอนุมัติ อย่างสงขลาฉีดวัคซีนครอบคลุม 73% แต่ต้องเน้นย้ำว่าแม้ฉีดวัคซีนเกิน 70% แต่ขอให้สัปดาห์นี้ช่วยกันพาคนใกล้ชิดรู้จักไปฉีดวัคซีน ทำให้ตัวเองปลอดภัย จังหวัดชุมชนของเราปลอดภัย

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ศบค.รับรายงานต่อเนื่องกรณีร้านอาหารแอบจำหน่ายแอลกอฮอล์ และแอบเปิดให้บริการคล้ายผับบาร์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดได้ ต้องเปิดเมื่อพร้อม เมื่อผ่านการประเมิน ซึ่งกำลังเตรียมการประเมินและสำรวจ การเปิดจะต้องค่อยเป็นค่อยไป เบื้องต้นที่มีข้อกำหนดออกมาแล้ว คือ เปิดถึง 23.00 น. และปิด 24.00 น.

งดกิจกรรมคลุกคลีเสี่ยงแพร่โรค ร้องคาราโอเกะ เต้นรำ เวียนแก้ว ดื่มแก้วเดียวกัน ส่งเสริมการขายที่ทำให้เกิดแออัด กิจกรรมร่วมกันระหว่างลูกค้า พนักงาน

ย้ำว่าแม้จะเปิดแล้ว แต่หากหละหลวม ไม่ปฏิบัติตามเคร่งครัด ก็เป็นไปได้ที่จะถูกปิดอีกรอบ เน้นย้ำทำความเข้าใจนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เริ่มท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ว่าการเปิดสถานบันเทิงยุคใหม่

สถานการณ์แพร่ระบาดจะคาดหวังเหมือนเดิมเป็นไปไม่ได้ เช่น ฟูลมูนปาร์ตี้ รวมกลุ่มดื่มกินเต้นรำ สนุกสนานเฮฮา ขาดสติ

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า วัคซีนโควิด 19 ฉีดเพิ่มขึ้น 235,121 โดส สะสม 92,360,417 โดส เข็มแรก 66.6% เข็มสอง 57% และเข็มสาม 4.6% 5 ธ.ค. สธ.ตั้งเป้าฉีดให้ได้ 100 ล้านโดส โควิด 19 เป็นโรคใหม่

ถ้าครอบคลุมไม่ได้ตามเป้าหมาย ไม่มีใครปลอดภัย อย่างยุโรปเห็นชัดครอบคลุม 80% ก็กลับมาระบาดซ้ำ เกิดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตต่อเนื่อง

ที่มา khaosod