เจ้าของรีสอร์ทปราจีนบุรี พาพนักงานกว่า 40 ชีวิต ปลูกพริกแปรรูปขาย ฮึดสู้ช่วงโควิด-19
วันที่ 12 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ covid-19 ระบาดหนักในประเทศไทยและในจังหวัดปราจีนบุรี ทำให้รีสอร์ทและสนามกอล์ฟต้องหยุดให้บริการ ยังไม่มีกำหนดนั้น ทางด้านผู้บริหารของรีสอร์ทและสนามกอล์ฟจึงได้ริเริ่ม ปลูกพริกออแกนิคแบบไม่ใช้สารเคมี 100% เพื่อดูแล พนักงานกว่า 40 ชีวิต ให้มีรายได้ระหว่าง จากปิดรีสอร์ทและการแพร่ระบาดของเชื้อ covid19 พี่ยังไม่มีท่าทีจะกลับสู่ภาวะปกติ
โดยแนวคิดทั้งหมดเริ่มต้นจากทางคณะผู้บริหาร ได้ทำการประชุม เกี่ยวกับสถานการณ์ covid โดยไม่มีแนวคิดที่จะลดหรือปลดพนักงานออก ซึ่งได้เรียกทางผู้จัดการและพนักงานทั้งหมดเข้าที่ประชุม เพื่อหาแนวทางในการ หารายได้ เพื่อที่จะดูแลพนักงานทั้งหมด สอบถามความถนัดของแต่ละบุคคล ถึงได้ทดลองปลูกพริกแบบไม่ใช้สารเคมี ตั้งแต่เริ่มระบาดรอบแรก ซึ่งผลเป็นที่น่าพอใจ
จึงได้ใช้สนามกอล์ฟ ที่มีเนื้อที่กว่า 600 ไร่แบ่งพื้นที่ในการปลูกพริกขี้หนูพันธุ์ซุปเปอร์ฮอทมีลักษณะพันธุ์ต้นสูงใหญ่แตกแขนงดีข้อถี่แลต่อยอดดีมาก ขนาดผลยาว 5-7 ซม.ติดผลดกทนทานโรค ผลดิบสีเขียว-เขียวเข้ม ผลสุกสีแดง-แดงเข้ม อายุการเก็บเกี่ยว 60-65 วันหลังย้ายกล้า ผลผลิตสดเก็บไว้ได้นานโดยขั้วผลไม่เน่า สามารถส่งไปขายที่ตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศ จำนวน 9 แปลงในวันนี้โดยพริกที่ปลูกไว้มีจำนวนกว่า 20,000 ต้น และให้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ จึงได้หาแนวทางการแปรรูป กลายเป็นพริกป่นออแกนิค และพริกป่นสูตรแจ่วเพื่อที่ไปประกอบอาหารโดยง่าย
นางสาวถนอมศรี สี่ตั้ง อายุ 42 ปี ผู้จัดการและนางสาวพิมพ์ พิมล อยุ 50 ปี ของ ฮิลล์ไซด์คันทรีโฮม สนามกอล์ฟ รีสอร์ท และ ศูนย์สัมมนาได้ พาชมกระบวนการปลูกและกระบวนการผลิต โดยในแต่ละแปลง จะมีแยกการรับผิดชอบของกลุ่มต่างๆ เพื่อจะได้เข้าถึงและดูแลได้อย่างดี โดยแปลงแปลงนั้น จะปลูกพริกทั้งหมดประมาณ 20,000 ต้น ทางพนักงานจะไม่ใช้สารเคมีในการดูแล แต่จะใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านในการกำจัดศัตรูพืชประเภทต่างๆ และทำการปลูกพริกในระบบปิด เพื่อป้องกันศัตรูพืชจาก 100% ทำให้พริกที่ปลูกนั้น จะปลอดสารเคมี 100%
โดยพริกที่เริ่มปลูกนั้นจะเวลาที่ใช้ในการปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยว : เริ่มจากเพาะลงถาด 30 วัน / ย้ายลงถุงดํา 15 วัน / ลงแปลงปลูก 45 วัน ก็เริ่ม เก็บเกี่ยวผลผลิตและสามารถให้ผลผลิตได้อีก 4 เดือน จึงจะสามารถเก็บผลผลิตได้โดยการเก็บผลผลิตนั้นได้ แล้วพนักงานจะเก็บวันเว้นวัน หลังจากนั้นเวลาที่ใช้ในการตากพริก ปกติถ้าแดดดี ใช้เวลาตาก 1 สัปดาห์
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการตากแดด สูตรการแจ่วผง พริกอินทรีย์ และ ข้าวเหนียวอินทรีย์ทุ่งกุลา จะนํามาคั่ว ให้หอมพิเศษด้วยไฟพอดี จะได้พริกที่มีกลิ่นหอม และรสชาติเผ็ดจัดจ้าน และนำไปบดแล้วบรรจุภัณฑ์ เพื่อที่ผู้บริโภคนำไปใช้ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดนั้นจะนำจำหน่ายไปยังวิสาหกิจชุมชนและตามสื่อออนไลน์ต่างๆ โดย พริกอินทรีย์ จําหน่าย กก.ละ 1,700 บาท ขณะที่แจ่วผง บรรจุ 50 กรัม ราคา 89 บาท
ขอบคุณที่มา MATICHON