ดนตรี งานรื่นเริง ละคร ภาพยนตร์ หรือสิ่งใดที่ถูกมองว่าให้ความสนุกมากเกินไป อาจถือเป็นของแสลงในอัฟกานิสถานยุคนี้ไปเสียแล้ว ทันทีที่ตาลีบันออกกฎใหม่ที่สะเทือนทั้งวงการบันเทิง ผู้คนต่างตกใจและจำต้องก้มหน้ายอมรับอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งการสั่งห้ามเล่นดนตรี การสังหารนักดนตรี และล่าสุดสั่งห้ามให้สตรีปรากฏตัวในละครอีกต่อไป
บทเพลง ดนตรี ท่วงทำนอง จะต้องถูกแบนให้หมดจากอัฟกานิสถาน
ย้อนกลับไปยังวันที่ 31 ตุลาคม 2021 สำนักข่าว BBC รายงานเหตุการณ์สะเทือนขวัญใหญ่ เมื่อนักรบตาลีบันพร้อมอาวุธครบมือ บุกงานสมรสหมู่ของประชาชนในจังหวัดนันกาฮาร์ ทางภาคตะวันออกของอัฟกานิสถาน โดยนักรบกลุ่มนี้แสดงความไม่พอใจการจัดงานเพราะเสียงดนตรีดังเกินไป
ดูเหมือนทางผู้จัดงานกับนักรบตาลีบันไม่สามารถตกลงกันได้ ตาลีบันกลุ่มนั้นจึงใช้ปืนกลกราดยิงในงานจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บหลายสิบคน ท่ามกลางเสียงด่าทอของผู้คน เนื่องจากก่อนจะถึงวันจัดงาน ทางคู่บ่าวสาว 4 คู่ ได้ทำเรื่องขอจัดงานและขอเปิดเพลงกับทางตาลีบันที่เป็นหัวหน้าชุมชนในย่านแล้ว ซึ่งทางตาลีบันก็อนุญาตให้เปิดเพลงผ่านเครื่องขยายเสียงได้ แต่สุดท้ายกลับบุกเข้ามาบังคับให้ปิดเพลง พังเครื่องเสียง และกราดยิงผู้คนจนเกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
เหตุรุนแรงไร้เหตุผลรองรับที่หนักแน่น ทำให้ทางด้านโฆษกตาลีบันต้องออกแถลงการณ์ ปฏิเสธว่าผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ไม่ได้กระทำความรุนแรงในนามขบวนการเคลื่อนไหวอิสลาม
ก่อนหน้าจะเกิดเหตุสลดในงานสมรสหมู่ ในช่วงแรกที่ตาลีบันขึ้นปกครองประเทศอีกครั้ง ซาบีฮุลลาห์ มูจาฮิด หัวหน้าโฆษกตาลีบัน ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2021 สั่งห้ามเล่นหรือฟังดนตรีในประเทศอัฟกานิสถาน เนื่องจากขัดกับหลักกฎหมายชารีอะห์ที่เป็นข้อบังคับใช้สูงสุด โดยพยายามประนีประนอมด้วยการกล่าวว่าไม่ใช่การบังคับหรือกดดัน แต่จะขอความร่วมมือให้ประชาชนเลิกเล่นดนตรีแทน ซึ่งหลังจากนั้นโลกก็ได้เห็นภาพนักรบตาลีบันบุกไปยังร้านขายเครื่องดนตรีและสถานศึกษาหลายแห่ง เพื่อทำลายเครื่องดนตรีในคาบเรียนหรือชมรมทิ้งจนไม่เหลือ
ถัดมาไม่กี่วันหลังจากโฆษกแถลงการณ์ว่าจะขอความร่วมมือแบบไม่บังคับ วันที่ 30 สิงหาคม 2021 สำนักข่าว Business Insider, AP และ New York Times รายงานตรงกันว่า นักรบตาลีบันได้สังหาร ฟาวัด อันดาราบี นักร้องและนักดนตรีเพลงโฟล์กด้วยการยิงศีรษะ
ละคร ซิตคอม ภาพยนตร์ จะไม่มีพื้นที่ให้กับสตรีอีกต่อไป
หลังเรื่องการกวาดล้างเครื่องดนตรีและนักดนตรีเงียบหายไปพักหนึ่ง คั่นด้วยเรื่องการห้ามเด็กผู้หญิงไปโรงเรียน ใช้แส้ไล่ฟาดม็อบเฟมินิสต์ การตามล่าผู้มีความหลากหลายทางเพศ ห้ามผู้ชายตัดผมโกนเครา หรือสั่งห้ามใช้เงินตราต่างชาติในอัฟกานิสถาน ล่าสุดกลุ่มตาลีบันกลับมาเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสื่อบันเทิงอีกครั้ง โดยประกาศว่าวันที่ 21 พฤศจิกายน 2021 เป็นต้นไป รายการโทรทัศน์ที่ออกอากาศในประเทศอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะภาพยนตร์หรือละคร จะต้องไม่มีผู้หญิงปรากฏให้เห็นเด็ดขาด
ในกรณีที่เป็นรายการข่าว มีการกำหนดนโยบายว่า ผู้ประกาศหญิงยังคงสามารถทำหน้าที่ต่อได้ โดยต้องสวมใส่เครื่องแต่งกายมิดชิดเรียบร้อย เสื้อผ้าควรเป็นสีดำ สีเทา หรือสีเข้มที่ไม่ใช่สีสดใส ต้องมีผ้าคลุมศีรษะ แต่ยังไม่ได้ระบุรายละเอียดชัดเจนว่าต้องคลุมผ้าแบบใด
นอกจากการห้ามให้ผู้หญิงปรากฏตัวในสื่อบันเทิง ตาลีบันยังออกข้อกำหนดห้ามนำเสนอภาพยนตร์หรือละครใดๆ ที่มีเนื้อหาหมิ่นศาสนา หรือแสดงว่ามีความคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อหลักกฎหมายชารีอะห์ หรือต่อต้านวัฒนธรรมชาวอัฟกัน (โดยไม่ได้นิยามว่าวัฒนธรรมชาวอัฟกันที่ว่าคืออะไร) และห้ามนำเสนอสื่อบันเทิงที่มีเนื้อหาสนับสนุนแนวคิดต่างชาติ
สิ่งที่สร้างความกังวลให้กับตาลีบันคงหนีไม่พ้น การกระทำของตัวละครชาย-หญิง ที่เปิดเผยเนื้อหนังเกินความจำเป็น มีเนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมายชารีอะห์ โดยทางตาลีบันระบุว่า ข้อกำหนดนี้ไม่ใช่มาตรการจำกัดสิทธิการแสดงออก แต่เป็นหลักการทางศาสนา เป็นหลักการทางกฎหมาย เป็นหลักการเบื้องต้นที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม
สมาคมสื่อมวลชนอัฟกานิสถานได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อประเด็นดังกล่าว พวกเขาไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ เพราะทั้งวงการบันเทิงจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม นักแสดงหญิงหมดสิ้นหนทางหาเลี้ยงชีพ ละครที่มีพระนางก็ไม่สามารถมีนางเอกได้อีก และหลังจากนี้จะต้องมีบริษัททำหนังหรือละครปิดกิจการอย่างเลี่ยงไม่ได้
คำสั่งเหล่านี้ไม่ได้เพิ่งมาเกิดขึ้น ณ ตอนนี้ ย้อนกลับไปยัง ค.ศ. 1996-2001 ช่วงเวลาที่ตาลีบันสามารถครอบครองพื้นที่เกือบทั้งหมดของอัฟกานิสถาน ก็มีการบังคับใช้กฎหมายชารีอะห์เป็นข้อบังคับสูงสุด ยกเลิกสิทธิสตรี ตามล่าผู้มีความหลากหลายทางเพศ ยกเลิกการฉายภาพยนตร์หรือละครบางประเภท งดการเล่นดนตรีสังสรรค์
ทิศทางที่ตาลีบันเลือกเดินดูเหมือนจะหวนกลับไปยังช่วงวันวาน ซึ่งทางเลือกนี้เสี่ยงทำให้ประเทศต้องตกอยู่ในสภาวะถูกแช่แข็งวัฒนธรรมอีกครั้ง
ที่มา thairath