ครู 200 คน รวมตัวทวง 18 ล้าน หลังจนท.การเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุตรดิตถ์ ยักยอก คดีไม่คืบ แต่กลับนำเงินสหกรณ์ฯคืนให้ลูกค้าแทน ปันผลลดกว่าครึ่ง
เมื่อวันที่ 30 พ.ย.64 ที่ลานหน้าอนุสาวรีย์ท่านพ่อพระยาพิชัยดาบหัก จ.อุตรดิตถ์ ตัวแทนครู บุคลากรทางการศึกษา และข้าราชการบำนาญครู กว่า 200 คน ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุตรดิตถ์ จำกัด พร้อมป้ายไวนิลขนาดใหญ่ระบุข้อความ “สมาชิกสุดจะทน ติดตามเงิน 18 ล้าน บริหารล้มเหลวปันผลได้แค่ 2.6 เปอร์เซ็นต์ ในรอบ 60 ปี
และยังมีป้ายไวนิลสีขาวดำ เชิงไวอาลัยพร้อมข้อความ เกี่ยวกับการบริหารงานที่ล้มเหลว การนำเงิน 137 ล้านบาท หักเป็นหนี้สูญหรือนี้เสีย และเงินโบนัสกว่า 2.5 ล้านบาท ก่อนที่ตัวแทนครูจะมอบหนังสือ เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ติดตามทวงถามความคืบหน้าของคดีเงิน 18 ล้าน
โดยก่อนเข้ารวมตัวทุกคนต้องผ่านการคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิ รับเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยมีนายสหวิช อภิชัยวิศรุตกุล รองผู้ว่าฯ จ.อุตรดิตถ์ เป็นตัวแทนรับมอบ จากนั้นมอบหนังสือถึงรองนายทะเบียนจังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เร่งดำเนินงานตรวจสอบเหตุเงินหาย 18 ล้านบาท
และการให้ยกเลิกประชุมใหญ่ในระบบระบบการประชุม Zoom โดยเปิดกว้างให้สมาชิกเข้าร่วมประชุม รับทราบผลการดำเนินงานต่างๆ และสามารถสอบถามเรื่องเงิน 18 ล้านบาท ด้วย โดยมี นายสุธี ขันทอง สหกรณ์จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นผู้รับมอบ ซึ่งใช้เวลารวมกลุ่มไม่ถึง 45 นาที ก็แยกย้าย
นายจินดา สว่างภักดิ์ อดีตรองประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุตรดิตถ์ จำกัด และกรรมการดำเนินการปี 58-59 เป็น 1 ในสมาชิกสหกรณ์ฯ ที่มีสมาชิกกว่า 7,000 คน กล่าวว่า การรวมตัวของสมาชิกสหกรณ์ฯในครั้งนี้ เพื่อทวงถามความคืบหน้ากรณี เจ้าหน้าที่การเงินของสหกรณ์ฯรายหนึ่ง ปลอมลายมือเจ้าของบัญชีจากสมุดบัญชีเงินฝาก แอบถอนเงินฝากลูกค้า 2 ราย รวมยอดพร้อมดอกเบี้ย 18,481,596.96 บาท ตั้งแต่ ปี 2561-2564 เนื่องจาก เรื่องค่อนข้างเงียบ เงียบผิดปกติ
ขณะเดียวกันยังทราบว่า สหกรณ์ฯ คืนเงินจำนวนดังกล่าวให้กับลูกค้าเป็นที่เรียบร้อย โดยนำเงินของสหกรณ์ไปทดแทนในบัญชีที่หายไป และตั้งเงินจำนวน 18 ล้านบาทให้เป็นหนี้สงสัยจะสูญหรือลูกหนี้เงินสดขาดบัญชี ทั้งนี้หากติดตามเงินไม่ได้เท่ากับว่าสหกรณ์ฯ สูญเงินไปกว่า 36 ล้านบาท
“เงินจำนวนกว่า 18 ล้านบาทที่นำไปทดแทน คือเงินของสหกรณ์ฯหรือเงินของสมาชิกทุกคน ที่อาจจะกลายมาเป็นผลกำไร เงินปันผลที่สมาชิกควรได้ ยิ่งไปกว่านั้นปีนี้ สมาชิกได้เงินปันผลลดลงกว่าครึ่ง จากที่เคยได้ 6 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 2.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำสุดในรอบ 60 ปี ตั้งมีก่อตั้งสหกรณ์ฯมา เช่นทุกปีได้เงินปันผลกว่า 70,000 บาท ปีนี้คาดว่าจะได้ 20,000 กว่าบาท
มันเกิดอะไรขึ้น เป็นการบริหารงานที่ล้มเหลว ทั้งในของผู้จัดการ รวมไปถึงประธานและกรรมการสหกรณ์หรือไม่ สมควรพิจารณาตัวเอง อย่างไรก็ตามเงินที่ถูกแอบถอนไปกว่า 18 ล้าน 3 บุคคลที่มีส่วนรับผิดชอบคือ เจ้าหน้าที่ผู้กระทำผิด ผู้จัดการสหกรณ์ฯ รวมไปถึงประธานและกรรมการสหกรณ์ในระหว่างปี 2561-2564” นายจินดา กล่าว
นายจินดา กล่าวต่อว่า พวกเราจึงมารวมตัวกัน เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการฯจ.อุตรดิตถ์ และรองทะเบียนนายทะเบียนจังหวัดอุตรดิตถ์ ติดตามความคืบหน้าของคดีดังกล่าวและการนำเงินสหกรณ์จำนวนกว่า 18 ล้านบาททดแทนในบัญชีที่หายไป และขอให้ยกเลิกการกระชุมใหญ่วิสามัญประจำปี 2564 ในระบบระบบการประชุม Zoom
โดยเปิดกว้างให้สมาชิกเข้าร่วมประชุม รับทราบผลการดำเนินงานต่างๆ และสามารถสอบถามเรื่องเงิน 18 ล้านบาท ด้วย ซึ่งสามารถจัดประชุมได้ที่หอประชุมใหญ่ของ ม.ราชภัฏอุตรดิตถ์ ภายใต้มาตรการคุมเข้มโควิด-19 หากไม่คืบหน้าก็จะดำเนินงานตามช่องทางไปยังส่วนกลางที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านนายสหวิช กล่าวว่า รับทราบเรื่องดังกล่าวมาบ้างแล้ว พร้อมที่จะติดตามให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใส และเป็นไปตามกระบวนการ ขั้นตอนของกฎหมาย คนทำผิดต้องได้รับการลงโทษและชดใช้ ทั้งคดีอาญา-แพ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพบเจ้าหน้าที่การเงินรายหนึ่ง ซึ่งทำงานมานานกว่า 20 ปี แอบถอนเงินฝากของลูกค้า 2 ราย ตั้งแต่ปี 2561-2564 ไปพร้อมดอกเบี้ยรวม 18,481,596.96 บาท ล่าสุดคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯมีมติลงโทษไล่ออกเจ้าหน้าที่รายดังกล่าว และแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางอาญาและแพ่งแก่ผู้กระทำผิด ซึ่งอยู่ชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว
ที่มา khaosod