เพื่อไทยบี้ ‘ประยุทธ์’ ตื่นตัวรับมือโอไมครอน ดักคออย่าโยนบาปปชช. อย่าบริหารแบบวัวหายแล้วล้อมคอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชี้ DnaNudge ตรวจหาเชื้อกลายพันธุ์ได้ 100% จี้รัฐจัดหา

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.64 น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอไมครอนอยู่ในกลุ่มสายพันธุ์น่าวิตกกังวล ทำให้หลายประเทศตื่นตัว ปรับมาตรการและยกระดับการเตือนภัยเป็นขั้นสูงสุดแล้ว เช่น ญี่ปุ่นที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงสุดในกลุ่ม G7 หรือกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ประเทศ ประกาศปิดพรมแดน อิสราเอลที่ฉีดวัคซีนรวดเร็ว ครอบคลุมประชากรมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก ก็ประกาศปิดพรมแดน หรือแม้แต่สิงคโปร์ที่ประชากรได้รับวัคซีนตามเป้า ยังปรับแผนการเดินทางเข้าพรมแดน

เห็นได้ว่ารัฐบาลทั่วโลกประเมินสถานการณ์การระบาดของเชื้อกลายพันธุ์น่ากังวล แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กลับบอกประชาชนว่าอย่าวิตกกังวล ไร้มาตรการเชิงรุก บริหารประเทศตรงข้ามกับทั่วโลกที่เฝ้าระวังภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งที่รัฐบาลต้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ตระหนัก ตื่นตัวและต้องเตรียมตัว เพราะยังมีคนไทยอีก 10 ล้านคนยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มแรก

น.ส.ชญาภา กล่าวต่อว่า น่ากังวลว่าทุกครั้งที่มีการระบาดในต่างประเทศไม่นาน ก็ตามมาด้วยการระบาดต่อในไทยทุกระลอก อย่าลืมว่าสายพันธุ์โอไมครอนกำลังมา ส่วนสายพันธุ์เดลตาก็ยังอยู่ รัฐบาลต้องเตรียมพร้อมและคำนึงถึงขีดความสามารถด้านสาธารณสุขทุกด้าน ถอดบทเรียนจากการระบาดของสายพันธุ์เดลตามาปรับใช้ และศึกษาการระบาดของโอไมครอนอย่างใกล้ชิด อย่าบริหารแบบวัวหายแล้วล้อมคอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดท้ายเมื่อเกิดปัญหาก็โยนบาปให้ประชาชนเหมือนที่ผ่านมา

แม้ไทยปรับแผนกลับมาใช้การตรวจแบบ PT-PCR กับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ชุดตรวจที่ทั่วโลกให้การรับรองอย่าง DnaNudge ที่มีความเร็วและมีประสิทธิภาพแม่นยำสูง สามารถตรวจหาเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ได้ถึง 100% น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งของพี่น้องคนไทย อยากให้รัฐบาลคำนึงถึงความปลอดภัยของชีวิตประชาชนเป็นที่ตั้งมากกว่าเรื่องอื่น

ที่มา khaosod