ก้าวไกลขอเลื่อนญัตติขบวนเสด็จฯ ขึ้นมาพิจารณา แต่ตกลงกันไม่ได้ วิปรัฐบาลเสนอลงมติขานชื่อ ชลน่าน ซัดทำสภาเสียเวลา สุดท้าย 246 เสียงไม่เห็นด้วยให้เลื่อนญัตติ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 ธ.ค.2564 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ทำหนาที่เป็นประธานการประชุม ภายหลังเปิดให้หารือปัญหาความเดือดร้อนแล้ว

น.ส.วรรณวลี ตะล่อมสิน ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล ขอเสนอญัตติด้วยวาจา ขอเลื่อนวาระการประชุมในวันที่ 2 ธ.ค. ขึ้นมาพิจารณาก่อน โดยให้สภาพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางเสด็จและการถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระราชินี เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2563 หลังจากลงมติ ญัตติการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเม้นคอมเพล็กซ์) และก่อนเรื่องรับทราบรายงานของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ทำให้นายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะวิปรัฐบาล อภิปรายว่า จากที่สมาชิกขอเปลี่ยนระเบียบวาระวันที่ 2 ธ.ค. ถ้าย้อนกลับไปสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องนี้เราพิจารณากันจบแล้ว คือการพิจารณาญัตติด่วนเรื่องเอ็นเตอร์เทนเม้นคอมเพล็กซ์ ดังนั้น ตนไม่เห็นด้วยจะให้เลื่อนญัตติแต่งตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาข้อเท็จจริงในข้อบกพร่องการกำหนดเส้นทางเสด็จและการถวายความปลอดภัยของสมเด็จพระราชินี มาพิจารณา และเชื่อว่าสมาชิกส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย

ด้านนายชวน ชี้แจงว่า การประชุมสัปดาห์ที่แล้ว เป็นการเลื่อนระเบียบวาระเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนคอมเพล็กซ์ ซึ่งยังไม่ได้ลงมติ อภิปรายจบแล้วแต่ยังไม่มีข้อสรุป ฉะนั้นกรณีดังกล่าว เมื่อสรุปแล้วถือว่าจบเรื่อง วันนี้ก็เลื่อนเรื่องอื่นเข้ามาได้ แต่ต้องจบเรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนคอมเพล็กซ์ก่อน ดังนั้น ขอให้ผู้ควบคุมเสียงทั้ง 2 ฝ่ายไปหารือกันว่าจะเลื่อนเรื่องอะไรขึ้นมาเพราะเจรจากันได้

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทักท้วงว่า เป็นเรื่องแปลกประหลาด เพราะเป็นการประชุมปกติและประธานได้บรรจุญัตติไว้แล้ว ควรดำเนินการตามวาระ ไม่ใช่สิทธิที่จะบอกไม่ให้พิจารณาเรื่องนี้ ทำให้นายชวน ขอให้วิปทั้งสองฝ่ายไปหารือให้เรียบร้อยก่อน เพราะปกติจะไม่มีปัญหาเรื่องแบบนี้ นายอรรถกร จึงขอให้พักการประชุม 15 นาที เพื่อไปหารือกับวิปฝ่ายค้าน แต่นายชวน ได้สั่งพักการประชุม 10 นาที

จากนั้นเวลา 10.50 น. กลับมาประชุมอีกครั้ง โดยน.ส.วรรณวลี ยืนยันเหตุผลให้เลื่อนญัตติขบวนเสด็จฯ ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะหากสภาไม่นำญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณา จะทำให้ญัตติด่วนอื่น เช่น ญัตติการตรวจสอบการสลายการชุมนุม ญัตติการตรวจสอบการใช้กฎหมายที่ขัดกับหลักนิติธรรมกับผู้ต้องขังทางการเมืองจะไม่ได้รับการพิจารณา

ด้านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเลื่อนระเบียบวาระ ต้องคุยกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายค้านควรยอมรับกลไกของสภาและไปหารือกันก่อน และสมาชิกทุกคนให้ความสำคัญกับทุกระเบียบวาระอยู่แล้ว จึงขอให้ดำเนินการตามระเบียบวาระ
จากนั้นนายชวน ได้ขอมติที่ประชุมว่าจะเห็นด้วยให้มีการเปลี่ยนระเบียบวาระหรือไม่ แต่นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล เสนอให้ที่ประชุมลงคะแนนแบบเปิดเผยด้วยการขานชื่อ

นายชวน จึงขอมติที่ประชุมว่าจะเห็นชอบให้ลงมติแบบขานชื่อหรือไม่ ผลปรากฎว่า ที่ประชุมเห็นด้วยให้ลงมติด้วยการขานชื่อ 219 ต่อ 49 คะแนน งดออกเสียง 15 ไม่ลงคะแนน 3 จากนั้นจึงลงมติด้วยการขานชื่อ

ทั้งนี้ก่อนประกาศผล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า ตนขอใช้สิทธิไม่ออกเสียง เนื่อจากเห็นว่าวิธีการที่ใช้ เป็นการรบกวนสภาโดยไม่จำเป็น แต่นายชวน ได้ตัดบท ไม่ให้อภิปรายต่อ เพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมคะแนน ผลปรากฎว่า ไม่เห็นด้วยให้เลื่อนญัตติขบวนเสด็จฯ ขึ้นมาพิจารณา 246 เสียง เห็นด้วย 45 เสียง งดออกเสียง 6 เสียง
จากนั้นเข้าสู่การพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่) พ.ศ….จำนวน 7 ฉบับ

ที่มา khaosod