จากกรณี นักเรียนหญิง อายุ 18 ปี ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ปรากฎเป็นข่าวตามสื่อต่างๆว่า เรียนเก่งแต่บ้านยากจน มีเงินติดบ้านเพียง 1,500 บาท ส่วนตัวน้องสอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จนมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคจนยอดเงินหลั่งไหลถึง  3.7 ล้านบาท ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ปรากฎว่าในโลกออนไลน์มีการติดแฮชแท็ก #จนทิพย์ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ข่าวดังกล่าว เพราะไม่เชื่อว่านักเรียนหญิงคนดังกล่าว ฐานะยากจนจริงอย่างที่กล่าวอ้าง เนื่องจากพบความผิดปกติหลายประการ โดยพบว่าเจ้าตัวใช้ข้าวของราคาแพง น้ำหอมแบรนด์เนม รวมทั้งยังมีภาพคนในครอบครัวออกรถป้ายแดงอีกด้วย

ล่าสุดวันนี้ (13 พ.ค.64) นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกับครอบครัวน้องเกี่ยวกับกรณีที่สังคมในออนไลน์กำลังมีข้อสงสัยกันต่างๆ นานา โดยน้องโวลต์ยังอยู่ในอาการเสียใจกับเรื่องที่มีการพูดถึงเรื่องข้าวของเครื่องใช้ที่ปรากฎในภาพข่าวที่เคยนำเสนอไป

ซึ่งทางน้องโวลต์ได้บอกว่า ตอนนี้ตนยังรู้สึกเสียใจกับสิ่งสังคมออนไลน์กำลังต้องข้อสงสัยและมีการพูดถึงในสิ่งที่ไม่ดีว่าไม่ได้จนจริง ตนจึงอยากบอกว่าสำหรับเรื่องรถเก๋งเป็นของพี่สาวของพี่สะใภ้ซื้อให้น้องสาวเขาใช้สามารถเช็คได้ว่าเป็นชื่อของพี่สาวเขาจริงๆ ส่วนเรื่องน้ำหอมตนไม่ได้ซื้อในหลักหมื่นเหมือนที่พูดกันแต่ตนซื้อในราคาหลักร้อยมีหลักฐานการซื้อขายเช่นกัน ครอบครัวของตนก็ไม่ได้มีบ้านอีกหลังมีบ้านแค่หลังเดียวคือหลังที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน 6 คน ส่วนเรื่องโทรศัพท์ไอโฟนตนไม่ได้มี แต่มีไอแพดจริงๆ และตนก็ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบังด้วย เพราะวันที่นักข่าวมาทำข่าววันแรกตนก็ยื่นให้เห็นซึ่งตนได้เก็บเงินซื้อเอง เพราะต้องใช้งานประกอบกับการเรียนออนไลน์ด้วย

ส่วนที่เลือกซื้อไอแพดก็เพราะตนมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ได้หลากหลายคงทน สามารถใช้ได้นานหลายปี และเป็นตัวเริ่มต้นซึ่งตนก็พอสามารถผ่อนจ่ายได้ ส่วนเรื่องมีคนพูดถึงเรื่องการขายหวย ตนก็บอกว่าเคยส่งให้เพื่อนแต่นานมากแล้วไม่ได้ทำมานานแล้ว ซึ่งเงินที่ตนได้รับบริจาคมาตนยังไม่ได้ใช้สักบาทสามารถตรวจสอบได้ ตนอยากขอบคุณทุกคนที่โอนเงินมาช่วยเหลือตนซึ่งตนสัญญาว่าจะนำเงินทุกบาททุกสตางค์เพื่อใช้ในการศึกษาจนกว่าจะจบเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างที่ตนได้ไฝ่ฝันเอาไว้

ทางด้านนายสมเตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับกรณีที่เกิดในโลกออนไลน์ทางผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็มีความห่วงใย จึงสั่งการให้นายอำเภอลงพื้นที่มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพราะเงินที่ได้รับบริจาคเป็นจำนวนอาจจะตรงกับวัตถุประสงค์ตอนนี้จะได้เชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น ผู้อำนวยการโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ คุณครูที่ติวเตอร์บ้านความรู้ มาช่วยเป็นที่ปรึกษาในการจัดสรรเงินให้เกิดประโยชน์ทางการศึกษามากที่สุดและโปร่งใส โดยจะมีการตรวจสอบจนกว่าน้องจะเรียนจบ

นางพร้อมจันทร์ แม่ของน้องโวลต์ บอกว่าได้ทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจและได้ให้กำลังใจลูกสาวอยู่ตลอดเวลา โดยตนและสามีก็มีอาชีพรับจ้างทั่วไปมีเงินเพียงจุนเจือครอบครัว ส่วนเรื่องการเรียนลูกก็กู้ยืมเงิน กยศ. เป็นทุนการเรียน เวลาขัดสนก็จะมีย่าผู้ใจดีคอช่วยเหลือ ส่วนเรื่องเงินเก็บในครอบครัวตนยืนยันว่าวันนั้นมีเงินเพียง 1,500 บาทจริงๆ ซึ่งตนก็อยากให้ผู้ที่ยังสงสัยสามารถเข้ามาดูที่บ้านได้ และขอขอบคุณผู้ที่ใจบุญทุกคนที่ช่วยเหลือเรื่องทุนการศึกษากับน้องโวลต์เพื่อจะให้น้องสามารถเรียนจบเป็นแพทย์ได้

ขอบคุณที่มาจาก Sanook.com