สามีร่ำไห้ไม่ได้ฆ่าเมีย อยากไปงานศพลาครั้งสุดท้าย แต่ญาติยังแค้นไม่เชื่อใจ ยันพยายามช่วยแล้ว หลังเมียเมาหัวทิ่มตกท่อดับ วอนสังคมเข้าใจ

จากกรณี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว อายุ 41 ปี อยู่ในตลาดแครายพลาซ่า หมู่4 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หัวทิ่มตกลงไปในท่อระบายน้ำ จนสำลักดินเลนเสียชีวิต โดยญาติผู้ตายเชื่อว่าสามีอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาหลักฐานเพื่อหาสาเหตุ ตามที่ข่าวนำเสนอไปแล้วนั้น

จากกรณี แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว อายุ 41 ปี อยู่ในตลาดแครายพลาซ่า หมู่4 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หัวทิ่มตกลงไปในท่อล่าสุดวันที่ 8 ธ.ค. 64 พ.ต.อ.เสรีฐกาญจน์ จันทร์ด้วง ผกก. สภ.กระทุ่มแบน เปิดเผยว่า ผลคดีขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนมีการตามหาพยานมาสอบปากคำ เพื่อประกอบสำนวนคดีให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด อีกทั้งยังต้องคงรอหลักฐานจากการส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่นิติเวช ของโรงพยาบาลศิริราช ที่ตอนนี้ยังไม่ได้รับผลกลับมา

เบื้องต้นยังไม่มีสิ่งใดหรือหลักฐานที่บอกเหตุว่าสามีจะเป็นคนทำร้ายในคดีนี้ ส่วนข้อสงสัยต่าง ๆ มองว่าสามีจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามรวบรวมพยานหลักฐานทุกทาง เพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างชัดที่สุดเป็นการตอบข้อสงสัยของสังคมได้ พร้อมกันนี้ทางผู้บังคับบัญชาก็ได้กำชับมาแล้วว่า ต้องสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกประเด็นและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือรอผลพิสูจน์จากทางนิติเวช

สามีของผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนรู้สึกเสียใจมากที่ไม่สามารถช่วยเมียขึ้นมาจากบ่อน้ำได้และต้องเห็นเมียขาดใจตายไปต่อหน้าต่อตา โดยตนทำทุกวิถีทางแล้วเพื่อช่วยเมีย ส่วนที่สังคมมองว่าตนทำร้ายเมียนั้น อยากจะบอกกับสังคมว่าไม่ได้ทำจริง ๆ ไม่ได้ฆ่าเมีย ตนพยายามที่จะช่วยเมียแล้ว แต่ช่วยไม่ได้จริง ๆ พยายามดึงขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ แต่ดึงไม่ขึ้นเพราะร่างติดแน่นอยู่กับปากท่ออีกทั้งตนยังไม่มีแรงดึงเพราะความเมาด้วย

โดยที่ผ่านมาตนเองก็ได้มีการติดต่อพูดคุยกับทางญาติของเมียบ้าง เพราะอยากที่จะกลับไปไหว้กราบศพเมียเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็ถูกห้ามไว้ เนื่องจากทางครอบครัวของเมียยังโกรธและไม่เข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลายคนยังคงมองว่าตนเป็นคนฆ่าเมีย ทั้งนี้ตนเองก็มั่นใจว่าผลชันสูตรที่ออกมาจะไม่โยงมาถึงตนอย่างแน่นอนเพราะตนไม่ได้ทำ ไม่ได้ฆ่าเมียจริงๆ จึงไม่มีอะไรให้ต้องวิตกกังวล

นอกจากนี้สิ่งที่อยากจะทำเป็นอย่างสุดท้ายนอกจากจะได้กลับไปกราบศพเมียแล้ว ยังอยากจะบวชอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณของเมียด้วย และหลังจากที่สึกออกมาแล้วก็จะขอกลับมาทำหน้าที่พ่อของลูกชาย ที่เป็นลูกติดของภรรยาอย่างดีที่สุด เพราะตนเองได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กชายอายุเพียงแค่ 3 ขวบเศษ ๆ จนตอนนี้ก็อายุ 10 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 แล้ว

ตนจึงรักเสมือนลูกในไส้ของตนเอง อย่างไรก็จะไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอนตามคำฝากฝังของเมียที่เคยพูดไว้แบบทีเล่นทีจริงเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ว่า “หากวันหนึ่งเขาเป็นอะไรไปก็ขอฝากลูกและครอบครัวให้ตนดูแล” ดังนั้นตนจึงจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด

ขณะที่ในส่วนของศพนางสาวกระต่าย ทางญาติได้นำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมศพที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นเวลา 3 คืน และจะทำการฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 11 ธ.ค. 64

ที่มา khaosod