พุ่งไม่หยุด! คลัสเตอร์สถานบันเทิง “ตลาดคับคั่งบึงกาฬ” ติดแล้ว 66 คน ลามเกือบทุกอำเภอ เร่งสอบสวนโรค พร้อมประชุมยกระดับมาตรการ

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2564 ที่สำนักงานสาธารณสุขบึงกาฬ นพ.ภมร ดรุณ นายแพทย์ สสจ.บึงกาฬ แถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ว่า มีผู้ป่วยสะสมทั้งหมด 2,454 ราย กำลังรักษาอยู่ 175 ราย เสียชีวิตสะสม 18 ราย ในช่วงที่สัปดาห์ที่ผ่านมาจำนวนผู้ป่วยรายวันมีแนวโน้มค่อนข้างสูงขึ้น เนื่องจากเกิดคลัสเตอร์ที่สำคัญ คือคลัสเตอร์ร้านอาหารตลาดคับคั่ง ในพื้นที่ อ.เมืองบึงกาฬ

โดยเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2564 ทาง รพ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับร้านอาหารชื่อว่า ตลาดคับคั่ง ซึ่งมีผู้รับบริการเป็นลูกค้าค่อนข้างมากในแต่ละวัน ผู้ป่วยรายนี้เป็นชาย อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย แต่เรียนออนไลน์ ได้ตรวจ ATK เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผลเป็นบวก

ผู้ป่วยให้ประวัติว่า เริ่มป่วยในวันที่ 1 ธ.ค. ก่อนหน้านั้นในวันที่ 28 พ.ย. เดินทางไปที่ร้านคับคั่ง โดยร่วมรับประทานอาหารสังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งมีประวัติไปร้านคับคั่งตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. ทำให้มีผู้สัมผัสในร้านคับคั่งหลายราย ทั้งเพื่อนที่ไปร่วมกินดื่มด้วยกัน และพนักงานภายในร้าน

ส่วนอีกรายเป็นหญิงอายุ 18 ปี มีอาการไข้ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. มีอาการไอ เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ มีน้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รส เข้ารับการตรวจที่ รพ.บึงกาฬ ปรากฏว่าติดเชื้อโควิด-19ผู้ป่วยเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิค ชั้น ปวส. วิทยาลัยเทคนิคบึงกาฬ ปี 1 นอกเวลาจะมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านคับคั่ง ไทม์ไลน์ที่สำคัญคือจะไปทำงานที่ร้านคับคั่งทุกวัน คาดว่าพนักงานร้านและลูกค้าน่าจะมีการนั่งกินดื่มด้วยกัน ทำให้ติดเชื้อและกระจายเป็นวงกว้าง

นพ.ภมร กล่าวต่อว่า จากไทม์ไลน์จะเห็นได้ว่า ทั้งพนักงานเสิร์ฟ พนักงานร้านอาหาร และผู้ป่วยรายแรก ซึ่งน่าจะมีการสัมผัสกันตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ทำให้มีการสัมผัสกับลูกค้าคนอื่น หรือพนักงานร้านคนอื่นจำนวนมาก ภายหลังตรวจเจอเชื้อจากผู้ป่วยรายแรกตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ทีมสอบสวนควบคุมโรคจึงต้องสืบสวนสอบสวนโรคว่า มีใครสัมผัสบ้าง เบื้องต้นมีพนักงานในร้านประมาณ 50 คน ต้องรับการตรวจ ATK

จากนั้นทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬมีการประกาศว่า ใครที่เดินทางไปที่ร้านคับคั่ง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. จนถึงวันที่ 1 ธ.ค. เป็นต้นมา หากมีอาการหรือสงสัยสามารถมาตรวจได้ที่สถานบริการใกล้บ้าน

ปรากฏว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. จนถึงปัจจุบัน พบผลเป็นบวกจำนวนหลายราย วันที่ 1 ธ.ค. พบ 2 ราย, วันที่ 2 ธ.ค. พบ 3 ราย, วันที่ 3 ธ.ค. พบ 2 ราย, วันที่ 4 ธ.ค. พบ 27 ราย, วันที่ 5 ธ.ค. พบ 12 ราย, วันที่ 6 ธ.ค. พบ 12 ราย และวันที่ 7 ธ.ค. พบอีก 8 ราย รวมทั้งหมด 66 ราย

นพ.ภมร กล่าวอีกว่า จากตัวเลขที่ค่อนข้างสูงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การติดเชื้อเกิดขึ้นในร้านอาหารที่มีคนจำนวนมากไปใช้บริการและร้านมีพนักงานจำนวนมาก ทำให้เกิดการแพร่กระจายไปพื้นที่ต่างๆ เป็นวงกว้าง เท่าที่ทีมสืบสวนสอบสวนควบคุมโรคได้รายงาน ทั้ง 66 ราย มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.เมือง 50 ราย, อ.ศรีวิไล 4 ราย, อ.พรเจริญ 5 ราย, อ.โซ่พิสัย 4 ราย, อ.ปากคาด 1 ราย, อ.บุ่งคล้า 1 ราย และอ.เซกา อีก 1 ราย กระจายไปเกือบทุกอำเภอของ จ.บึงกาฬ เนื่องจากร้านอาหารคับคั่งเป็นที่นิยมที่คนเดินทางเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก

นพ.ภมร กล่าวต่อว่า ทางจังหวัดได้สั่งปิดร้านคับคั่งตั้งแต่วันที่ 1-11 ธ.ค. เป็นเบื้องต้น ในส่วนของพนักงานที่เสี่ยงสูงให้กักตัวที่บ้าน ส่วนผู้ป่วยก็เข้าสู่กระบวนการรักษา และทุกอำเภอที่มีผู้ป่วยยืนยัน ทางทีมสอบสวนของอำเภอจะไปสอบสวนและเก็บตัวอย่างจากกลุ่มเสี่ยงสูงที่ภูมิลำเนาของผู้ป่วย แล้วสั่งกักตัวผู้เสี่ยงสูงที่บ้าน ซึ่งพบหลายอำเภอ

นพ.ภมร กล่าวอีกว่า ที่สำคัญคือผู้ป่วยจำนวนมากเป็นพนักงานของสถานประกอบการหลายแห่ง ซึ่งทางทีมสอบสวนของอำเภอที่เกี่ยวข้องได้ลงไปสอบสวนควบคุมโรคที่สถานบริการแห่งนั้น เช่น ผู้ป่วยที่ไปเที่ยวร้านคับคั่งทั้ง 66 รายนั้น ทำงานอยู่หลายที่ ได้แก่ ร้านซิกเนเจอร์, ร้านฉลองบาร์, ร้านเซฟโซน, ร้านโรงเหล้า, ร้านทรู, ร้านฟอร์ดบึงกาฬ, ร้านโตโยต้าบึงกาฬ, บริษัทแฟลชบึงกาฬ, บริษัทเจแอนด์ทีที่บึงกาฬ และครัวลุงน้อย

ซึ่งสถานประกอบการเหล่านั้นจะมีพนักงานที่ไปเที่ยวร้านคับคั่ง และติดเชื้อโควิด-19 ทำให้สถานประกอบการต่างๆ สั่งปิดชั่วคราวเพื่อทำความสะอาด ซักประวัติ กักตัวเพื่อนร่วมงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยงไว้อย่างน้อย 7 วัน และมีการใช้พนักงานชุดใหม่มาทำงานแทน ซึ่งต้องติดตามตรวจอีกครั้งว่า จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่

นพ.ภมร กล่าวต่อว่า จ.บึงกาฬ ขอประชาสัมพันธ์ถึงพี่น้องประชาชนที่ไปเที่ยวานคับคั่ง ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย. จนถึงวันที่ 1 ธ.ค. หากใครมีอาการทางเดินหายใจเช่น ไข้ ไอ น้ำมูก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รส หรือสงสัยว่าตัวเองจะติดเชื้อ ขอให้รีบไปตรวจ ATK หรือ RT-PCR ที่โรงพยาบาล หรือ รพ.สต.ใกล้บ้านได้ทันที ซึ่งส่วนใหญ่ได้มาตรวจจนเกือบหมดแล้ว

นพ.ภมร กล่าวอีกว่า ในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบึงกาฬ จะประชุมยกระดับมาตรการควบคุมร้านอาหารที่มีคนนั่งกิน และมีการแสดงดนตรี เพื่อควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดเช่นกรณีของร้านคับคั่ง ซึ่งต้องรอมติจากคณะกรรมการอีกครั้งหนึ่ง คาดว่าจะมีการจำกัดการกินดื่ม และการแสดงดนตรีให้มากขึ้น เพื่อสกัดไม่ให้มีการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างเช่นนี้อีก ซึ่งขณะนี้ จ.บึงกาฬ มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่จังหวัดอื่นๆ กำลังลดลง จึงคิดว่าต้องยกระดับการ์ดของเราให้สูงขึ้นกว่านี้

นพ.ภมร กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนของ จ.บึงกาฬ ปัจจุบันมีประชาชนได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 208,622 คน คิดเป็น 57.13% ตามฐานประชากร โดยสัปดาห์นี้ จ.บึงกาฬ จะรณรงค์ฉีดวัคซีนเข็ม 1 ให้ประชาชนทั่วไปทั้งหมด 20,000 โดส ถึง 12 ธ.ค. เพื่อให้ทะลุเป้า 60% ของฐานประชากร

“ที่สำคัญในวันที่ 10 ธ.ค. ทาง จ.บึงกาฬ จะทำกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนฉีดวัคซีนทุกอำเภอพร้อมกัน 1 วัน 1 หมื่นโดส โดยจะเปิดงานที่โรงเรียนหนองเข็งวิทยา ต.โนนสว่าง อ.เมืองบึงกาฬ เวลา 09.00 น. ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนของรางวัล/ของชำร่วย ในการแจกให้กับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาฉีดวัคซีน จากนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไปรับบริการได้ที่จุดบริการวัคซีนโรงเรียนหนองเข็งวิทยา ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมทุกอำเภอ” นพ.ภมร ทิ้งท้าย

ที่มา khaosod