“มาโน โพลกิง” ยก “ฟิลิปปินส์” เก๋า มีสายสืบในไทยเยอะ แต่หวังชนะ เพื่อการันตีเข้ารอบรองฯ ทันที ไม่หวั่นเจอ “เวียดนาม” รอบไหนก็ได้ จะเป็นแชมป์ยังไงก็ต้องเจอ พร้อมบอกเสียดาย ต้องให้ “โจนาธาน” ออกจากแคมป์ ส่วน “กวินทร์” พ่อป่วย ต้องรีบกลับไปดูแล

ความเคลื่อนไหว “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ที่เตรียมลงสนามศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020” รอบแรก กลุ่ม A นัดที่ 3 พบ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ วันที่ 14 ธ.ค. เวลาไทย 16.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD โดยไทย เตะ 2 นัด มี 6 แต้ม นำจ่าฝูง จากการชนะ ติมอร์เลสเต 2-0 และ ถล่ม เมียนมา 4-0 ส่วน ฟิลิปปินส์ มี 3 แต้ม จาก 2 นัด

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ได้มีการแถลงข่าวก่อนการแข่งขัน มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า เป็นเกมที่สำคัญที่สามารถตัดสินการเข้ารอบรองชนะเลิศได้ ทีมไทยไม่มีนักเตะคนใดบาดเจ็บ ทุกคนพร้อมจะลงเล่น แต่ยอมรับว่ามีเวลาซ้อมน้อย จากเกมกับ เมียนมา ได้แค่ฟื้นฟูสภาพร่างกายกลับมาเท่านั้น รวมถึงวิเคราะห์เกมกับเมียนมา นำจุดผิดพลาดมาแก้ไขเพิ่มเติม รักษาสิ่งที่ดีในเกมก่อน ทำให้ดีขึ้นในเกมนี้ มีสมาธิกับเกมของตัวเอง

เฮดโค้ชช้างศึก กล่าวต่อว่า จากที่ได้ดูฟิลิปปินส์ในสนาม และส่วนตัวก็รู้จักกับ สกอตต์ คูเปอร์ เฮดโค้ชดี เป็นโค้ชที่เคยทำงานในไทย รู้จักไทยลีกและผู้เล่นไทย ขณะที่นักเตะในทีมก็มีประสบการณ์ เคยเล่นในไทยลีกมาหลายคน ถึงแม้ว่าชุดนี้จะไม่หนุ่มแน่นเหมือนทีมอื่นๆ แต่ก็เป็นทีมที่แข็งแกร่งและอันตรายแน่นอน แต่การที่ชนะ ติมอร์ฯ 7-0 นัดนั้น ติมอร์ฯ ส่งสำรองลงเยอะ จึงไม่ได้สนใจผลนัก จะเน้นไปวิเคราะห์เกมกับสิงคโปร์มากกว่า

เมื่อสอบถามการถอนตัวของโจนาธาน เข็มดี กับการที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ บินกลับประเทศไทยดูแลคุณพ่อที่ป่วย มาโน กล่าวว่า โจนาธานมีปัญหาเรื่องสุขภาพตอนซ้อมได้ไม่เต็มที่ ทีมแพทย์จึงให้กลับไปรักษาที่ประเทศเดนมาร์กดีกว่า อย่างไรก็ตามโจนาธานเป็นเด็กที่มีอนาคต ยังมีเวลาเติบโตกว่านี้และก็เสียดายที่ต้องให้กลับไป ส่วน กวินทร์ คุณพ่อป่วยหนัก เป็นเรื่องที่ต้องให้กลับไปโดยด่วนที่สุดเพื่อดูแลคุณพ่อ

“อย่างไรก็ตามไม่ห่วงเรื่องขุมกำลังที่ขาดหายไป เพราะเกมรับของไทยตอนนี้ยังทำได้ดี มีผู้เล่นเพียงพอทั้งตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ๊กและผู้รักษาประตู”

เมื่อถามถึงเกมกลุ่ม B ซึ่ง เวียดนาม ชนะ มาเลเซีย 3-0 มีโอกาสจะจบเป็นแชมป์กลุ่ม ดังนั้นไทยต้องตั้งเป้าเป็นแชมป์กลุ่มเพื่อหนีเวียดนามในรอบรองชนะเลิศหรือไม่ มาโน กล่าวว่า ถ้าหากว่าจะเป็นแชมป์ไม่ว่ายังไงก็ต้องเจอทุกทีมอยู่แล้ว เป้าหมายแต่ละเกมคือชัยชนะเท่านั้น และก็พร้อมจะเจอกับเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นรอบรองชนะเลิศหรือรอบชิงชนะเลิศ ก่อนอื่นต้องโฟกัสที่เกมกับฟิลิปปินส์ก่อน เก็บชัยชนะให้ได้ เพื่อเข้ารอบรองชนะเลิศและจะได้มีเวลาในการซ้อมมากกว่านี้

“รู้ดีว่าเวียดนามมีดีแค่ไหนและก็ให้ความเคารพ แต่ไม่ว่าจะเจอในรอบรองชนะเลิศหรือรอบชิงชนะเลิศ สุดท้ายก็ต้องเจออยู่ดีถ้าหากทีมต้องการจะเป็นแชมป์ ดังนั้นเป้าหมายของผมคือพาทีมชาติไทยเก็บชัยชนะให้ได้”

ขอบคุณข้อมูลจาก กีฬาเดลินิวส์