เผยเคล็ดลับวิธีรักษาฝ้าหายขาด โดยไม่มีผลข้างเคียง รักษาฝ้าได้ หายจริง

เป็นสิวที่ว่าแน่ ยังแพ้เป็นฝ้านะจ้ะสาวๆ บอกเลยว่าวงจรการรักษาฝ้านั้นแสนจะยากเย็น หลายคนต้องเจ็บมาเยอะกับครีมรักษาฝ้าที่ว่าดี หรือแม้แต่การลงทุนทำหน้าใสเมโส ทุ่มไปกับการทำเลเซอร์ไม่อั้น แต่สุดท้ายฝ้าก็กลับมาเกิดซ้ำอยู่ดี บอกเลยว่าถ้าจะตัดวงจรปัญหาการเกิดฝ้าบนใบหน้าซ้ำๆ ซากๆ ก็ต้องมารู้จักสาเหตุการเกิดฝ้ากันก่อน จะได้หาทางรักษาอย่างถูกวิธี

แต่ปัจจุบันเรื่องฝ้าไม่ได้รักษายากอย่างที่เคยเป็นมาอีกต่อไป

ร่วมไขรหัสไปกับ จั๊ด-ธีมะ กาญจนไพริน ผู้ประกาศข่าวคนดังแห่งยุคกับช่วง Breaking News! ที่เขาขอเจาะลึกเรื่องความงามเป็นครั้งแรกกับนีเวีย ลูมินัส630 สปอตเคลียร์ ทรีทเม้นท์ ที่มาพร้อมสารสำคัญ “ลูมินัส630 (Luminous 630)” ซึ่งจะตรงเข้าดูแลผิวอย่างล้ำลึก พร้อมปฏิวัติความเชื่อเรื่องฝ้า แดด และจุดด่างดำทั้งหมดที่เคยมีมาบนโลกใบนี้กับการทำให้ปัญหาทั้งหมดที่เคยสร้างความหนักใจลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัดแค่ใช้อย่างต่อเนื่อง

มาสรุปกันให้เห็นภาพชัดๆ อีกรอบว่าฝ้า กระ และจุดด่างดำเกิดขึ้นได้อย่างไร
และมีวิธีรักษาแบบไหนให้ฝ้ากระที่เคยฝังลึกสามารถลดเลือน แลดูจางหายลงได้

  1. แสงแดด

            หลายคนพอจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า ฝ้าเกิดจากการตากแดดมากเกินไป ทำให้ผิวผลิตเม็ดสีหรือเมลานินใต้ชั้นผิวในปริมาณมาก จนเกิดเป็นรอยสีน้ำตาลเข้มไปจนถึงเทาตามบริเวณต่างๆ บนใบหน้า เช่น โหนกแก้ม เหนือริมฝีปาก หน้าผาก หรือคาง ถ้าอยากหาวิธีรักษาฝ้าให้หายขาด แสงแดดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องหลีกเลี่ยงและหาวิธีป้องกัน

  1. ฮอร์โมน

ปัญหาฝ้ามักเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ยิ่งใครที่อยู่ในช่วงวัย  20-50 ปี ยิ่งเป็นฝ้าได้ง่าย เพราะปัจจัยอื่นที่สามารถกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้อีก เช่น ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ กินยาคุมกำเนิด หรือแพ้เครื่องสำอาง รวมถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคไทรอยด์ก็มักเกิดฝ้าบนใบหน้าได้เช่นกัน

วิธีลดเลือนและการรักษาฝ้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

  1. ครีมทาฝ้าที่มีส่วนผสมของไฮโดรควินิน

วิธีรักษาฝ้าด้วยยาทารักษาฝ้าที่มีส่วนผสมของไฮโดรควินิน (Hydroquinone) ซึ่งถือเป็น gold standard สำหรับวงการแพทย์ผิวหนัง มีสรรพคุณลดเม็ดสีที่ถูกสร้างขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สีผิวจางเมื่อทายาอย่างสม่ำเสมอ แต่ในขณะเดียวกันตัวยาที่อยู่ในครีมทารักษาฝ้านี้ จะมีผลในการทำลายที่อยู่ของการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งทำให้เกิดความไม่สมดุลของเม็ดสีเมลานินบนผิว และเป็นผลให้ทำให้เกิดโรคผิวด่างขาวอย่างถาวร

  1. การลอกฝ้าโดยใช้ยากลุ่มกรดวิตามินเอ (Retinoids)

            วิธีการรักษาฝ้าแบบนี้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เช่นเดียวกับการใช้กรดผลไม้อย่าง AHA (Alpha Hydroxy Acid) และ BHA (Beta Hydroxy Acid) ที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวที่ผิวชั้นนอกได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ฝ้าจางลงเพียงแค่ผิวชั้นนอกเท่านั้น ไม่ได้ไปจัดการที่ต้นตอผิวชั้นใน แถมยังทำให้ผิวแห้งและอาจเกิดการระคายเคืองได้

  1. การทำเมโสหน้าใส

นอกจากการใช้ครีมรักษาฝ้าแล้ว การทำทรีตเมนต์ที่ใช้เข็มขนาดเล็กในการเจาะผ่านเข้าไปในผิวหนังชั้นกลาง เพื่อนำสารจำพวกวิตามิน แอนติออกซิแดนท์ และสารบำรุงผิวตัวอื่นๆ ไปยังชั้นผิวด้านใน เพื่อเพิ่มคอลลาเจนให้ผิวเต่งตึงสวยใสขึ้นภายใน 1 เดือน การทำเมโสหน้าใสมีข้อเสียอยู่บ้างก็ตรงที่ต้องเจ็บตัว และอาจเกิดแผลเป็นขึ้นในใบหน้า หรืออาจเกิดการอักเสบได้ในรายที่ผิวบอบบางเป็นพิเศษ

  1. การรักษาด้วยเลเซอร์

วิธีการรักษาฝ้าให้หายขาดด้วยเลเซอร์อาจเป็นวิธีการที่หลายคนคิดว่าได้ผล เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่าสามารถทำให้ฝ้าสามารถหายวับไปกับตา ก็ไม่ใช่วิธีรักษาที่ถูกต้อง เพราะยิ่งรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์บ่อยเท่าไร จากฝ้าที่เคยมีสีน้ำตาลดำก็จะยิ่งกลายเป็นสีน้ำตาลดำปนกับรอยด่างเป็นวงสีขาว (บริเวณที่คิดว่าเสกฝ้าให้หายไปได้แล้วนั่นแหละ) ทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอยิ่งกว่าเดิม ลักษณะแบบนี้เขาเรียกว่า ลิวโคเดอร์มา ที่ก็รักษาไม่หายเช่นกัน

  1. การรักษาฝ้าทีต้นตอ โดยไม่มีผลข้างเคียง

ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าในตลาดส่วนใหญ่  บอกว่ามีสารที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งเป็นต้นตอการผลิตเม็ดสีที่ระดับใต้ชั้นผิว  จึงทำให้ฝ้าจางลงอย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ  แต่ในความเป็นจริงผลิตภัณฑ์เหล่านั้นถูกทดสอบเรื่องการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสเพียงบนผิวเห็ด ซึ่งอาจไม่มีประสิทธิภาพจริงบนผิวคน เนื่องจากไม่สามารถไปสกัดเอนไซม์ไทโรซิเนสจากผิวคนได้ จึงไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจะสามารถทำการรักษาฝ้าที่ต้นตอได้

6. New Gold Standard! การลดเลือนฝ้าแดดที่ต้นตอ โดยไม่มีผลข้างเคียง

ล่าสุด Sanook ได้ข้อมูลมาจากสถาบันโรคผิวหนังว่า มีนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันที่ชื่อว่า Ludca ได้ทำการค้นคว้ากว่า 10 ปี จนค้นพบสารลูมินัส630 (Luminous630) จากสารทั้งหมดที่นำมาทดลอง 50,000 ชนิด สารลูมินัส630 (Luminous630)  เป็นสารที่มีคุณสมบัติในการลดเลือนฝ้าสะสมจากแสงแดดฝังลึกโดยไม่ทำลายเซลล์ผิวชั้นนอกรอบข้างลูมินัส630 (Luminous630) จึงถือเป็นนวัตกรรมในการลดเลือนฝ้าแดดที่ต้นตอได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง 

ซึ่งนวัตกรรมลูมินัส630 (Luminous630) ยังพบอยู่ในผลิตภัณฑ์ “นีเวีย ลูมินัส630 สปอตเคลียร์ ทรีทเม้นท์” ที่มาในแพคเกจจิ้งสุดไฮโซ ด้วยเฟรชลี แอคทิเวเตท บูสเตอร์ ทำการเก็บเนื้อครีมแยกกัน 2 ฝั่ง เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อผสมกันลงบนผิว เหมือนได้ผสมครีมสดใหม่ใช้เองในทุกวัน และด้วยประสิทธิภาพของลูมินัส630 (Luminous630) ที่จะตรงเข้าลดเลือนฝ้าแดดสะสม ทั้งสามมิติ ทำให้ฝ้าหนาที่ฝังอยู่ใต้ผิวตื้นขึ้น ขนาดดูเล็กลง สีจางลง พร้อมผสานไฮยารูลอนและวิตามินอี ช่วยฟื้นสภาพผิว พร้อมบำรุงผิวกลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น กระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอเป็นธรรมชาติ

แต่ถ้าใครที่มีปัญหาฝ้าแดดฝังลึกแก้ยาก สีผิวไม่สม่ำเสมอ สังเกตเห็นจุดฝ้าเข้มๆ สังเกตเห็นได้ชัด อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าจุดเข้มฝ้าแดดฝังลึกกว่าฝ้าทั่วไป จำเป็นต้องใช้อีกหนึ่งตัวช่วยเพื่อจัดการปัญหาได้อย่างตรงจุด อย่าง  เซรั่มเข้มข้น นีเวีย ลูมินัส630 สปอตเคลียร์ ดีพ สปอต ทรีทเมนท์ สามารถใช้แต้มเฉพาะจุด โดยเฉพาะบริเวณฝ้าสะสม ไม่ว่าจะเป็นฝ้าแดดฝังลึก ฝ้าหนาที่สะสมมานาน โดยประสิทธิภาพของไมโครลูมินัส630 จะตรงเข้าจัดการปัญหาฝ้าถึงเซลล์ผิว จึงช่วยลดเลือนจุดเข้มฝ้าแดดฝังลึกถึงต้นตอ พร้อมลดการการเกิดซ้ำของฝ้าแดด เพียงใช้แต้มเช้าเย็น หลังจากทาทรีทเมนท์บำรุง

“นีเวีย ลูมินัส630 สปอตเคลียร์ ทรีทเม้นท์” และ “นีเวีย ลูมินัส630 ดีพ สปอต ทรีทเม้นท์” ผ่านการพิสูจน์จากผู้เชี่ยวชาญแล้วว่าสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย ช่วยจัดการปัญหาฝ้าแดดได้อย่างตรงจุด ให้สาวๆ มั่นใจไม่ต้องใช้รองพื้นปกปิดฝ้าจนหน้าเตอะอีกต่อไป

ที่มา sanook

ในเรื่องของการเลือกผลิตภัณฑ์ หากใครที่ยังไม่รู้จะใช้ผลิตภัณฑ์อะไร แอ๊ดเทวดา มีมาแนะนำดังต่อไปนี้

——————————————————

📞 ติดต่อสั่งซื้อหรือสนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย

โทรศัพท์ติดต่อทีมงานแอ๊ดเทวดา

055 302 333

081 888 55 44

081 896 69 99