“พล.อ.ประยุทธ์” นั่งรถทะเบียน 2880 ลงพื้นที่ยะลา ติดตามงานชายแดนใต้ อ้อนมาด้วยความคิดถึง ย้ำสถาบันหลักของชาติ พร้อมขอให้ร่วมกันเข้ารับวัคซีน ลดป่วยรุนแรงลดเสียชีวิต
วันที่ 15 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมรัฐมนตรีและคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 07.00 น.เศษ ไปยังท่าอากาศยานทหารกองบิน 56 ตำบลโคกม่วง อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา จากนั้นเมื่อเวลา 10.00 น. เดินทางถึงศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตำบลสะเตง อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา โดยรถยนต์หมายเลขทะเบียน 1ขข 2880 กรุงเทพมหานคร เพื่อตรวจติดตามงานด้านความมั่นคงและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มาด้วยความคิดถึงชาวใต้ ติดตามการดำเนินการด้านต่างๆ มาโดยตลอด ทุกคนถือเป็นครอบครัวเดียวกันคือครอบครัวประเทศไทย ยืนยันว่าจะแก้ปัญหาให้ได้ตราบใดที่ยังเป็นรัฐบาล แม้ทุกรัฐบาลจะดำเนินการมาตลอด แต่มองว่าไปได้ช้ามาก อีกทั้งเป็นห่วงชีวิตความเป็นอยู่ พร้อมย้ำทุกส่วนราชการให้ไปดู TP Map ที่อยู่ระดับต่ำก็ไปพัฒนาตรงนั้น
ปลูกอะไรไม่ว่า แต่วันหน้าต้องปรับเปลี่ยน ถ้าทำอย่างเดิมอย่างเดียวก็จะเป็นอยู่แบบนี้ เรื่องสำคัญคือการแก้ปัญหาหนี้สิน และหลายๆ เรื่องทำได้หรือไม่อยู่ที่ประชาชนทั้งสิ้น หลายวันนี้เกิดหลายเรื่องก็คลี่คลายไปแล้ว รวมถึงเรื่องโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จะทำได้หรือไม่ขึ้นกับประชาชน ทุกอย่างต้องทำ SEA ดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าประชาชนไม่ชอบก็ทำไม่ได้ ต้องเยียวยาผู้มีผลกระทบด้วย ต้องดูทุกมิติ
สำหรับเรื่องสถิติความรุนแรงในพื้นที่พบว่าลดลง แต่ยังมีอยู่ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวัง แจ้งเตือน สังเกต อย่าขาดความระมัดระวัง ช่วยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ ส่วนตัวคิดไม่เคยหยุดตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนต้องมีความสุข อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงรับสั่งว่ารัฐบาลมีหน้าที่ทำให้ประชาชนมีความสุข ก็พยายามทำมาตลอด และสิ่งที่จะแก้ปัญหาต่างๆได้คือประชาชนต้องมีส่วนร่วม ส่วนรัฐบาลสนับสนุน พร้อมขอความร่วมมือทุกพื้นที่
ขอข้อมูลในเรื่องการทำกิน และต้องมีตัวชี้วัดชัดเจนว่าทำสำเร็จได้จริงหรือไม่ ถ้าไม่ทำอย่าไปอบรม เสียประโยชน์ เสียเวลา ภาคใต้ปลูกยางพาราสูงมาก วันนี้การใช้ยางดิบลดลง เราต้องหาอะไรเสริมเพื่อลดค่าใช้จ่าย จัดตั้งวิสาหกิจชุมชน สร้างสตอรี่เพิ่มมูลค่าในการขาย ในโซเชียลมีเรื่องขัดแย้งมากมาย แต่คนกลับไม่อ่านเรื่องที่รัฐบาลทำอะไรบ้าง ถ้าฐานรากเข้มแข็งประเทศชาติก็เข้มแข็ง
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า สำคัญที่สุดคือ เราสร้างกลไกให้ครบวงจร ปัจจุบันการค้าขายออนไลน์คิดเป็น 70% ของการค้าขายทั้งประเทศ เป็นห่วงอาชีพอิสระด้วย นายกรัฐมนตรีเอาปัญหาทุกคนมาคิด แต่ทุกอย่างเป็นตามกฎระเบียบ เรามีศักยภาพ แต่ยังไม่รวมพลังกันทำ และขอใช้พื้นที่ให้เกิดผลประโยชน์สูงสุด ไม่ได้ตำหนิใคร แต่ต้องการสร้างแนวหลักคิดใหม่
รวมถึงเรื่องการศึกษา ถ้าเรียนมาแล้วไม่มีงานทำ จะเรียนไปทำไม ขอให้ดูความต้องการตลาดแรงงาน ถ้าไม่ตรงความต้องการของตลาดแรงงาน จบปริญญาก็ภูมิใจแต่ไม่มีงานทำ และยังเป็นห่วงเรื่องการถูกหลอกไปทำงาน คนเลวก็คือเลว ไม่กลับตัวกลับใจเสียที
นอกจากนี้ ไทยเรามีวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความเป็นชาติ มีศาสนาที่หลากหลาย และมีสถาบันพระมหากษัตริย์ นี่คือซอฟต์เพาเวอร์ (Soft Power) ประเทศไทยเป็นสุขได้ทุกวันนี้ เราใช้กำลังไม่ได้ มันเกิดปัญหา และวันหน้าก็มีคนมาแสวงหาประโยชน์กันทุกปี อย่าทำให้มันเกิดขึ้น ต้องมีคนได้ประโยชน์เสียประโยชน์กับความขัดแย้งต่างๆ ยืนยันว่านายกรัฐมนตรีไม่ต้องการสร้างความขัดแย้งกับใคร ถ้าเราไม่มีสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็คงไปไหนไม่รู้
โดยเมื่อพูดไประยะหนึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ถอนหายใจและพูดว่า “มันเหนื่อยไง มันเหนื่อยหลายเรื่อง ประเทศไทยมีคนอยู่ 70 ล้านโดยรวม 70 ล้านความคิด ผมมีหน้าที่ทำให้ 70 ล้านคนร่วมมือกันไปอย่างไรตรงนี้ ใครที่ยังไม่ร่วมมือก็คิดตามมาได้ไหม บังคับใครไม่ได้ประชาธิปไตย ที่ผมพูดนี่มีอะไรผิดไหมเนี่ย แต่มันทำยากใช่ไหม มันทำยากที่สุดเลยแหละ ถ้ามันทำง่ายมันจบไปหลายรัฐบาลแล้ว แต่เราก็ทำไว้เยอะแล้วนะในการปูพื้นฐาน โทรคมนาคม การสื่อสาร 5G เรื่องอะไรต่างๆ ที่จะเกิดประโยชน์ในเร็ววันข้างหน้า มันจะเกิดมูลค่าขึ้นมา เป็นฮับ (Hub) การท่องเที่ยว ฮับสาธารณสุข ฮับการลงทุน เยอะแยะไปหมด นี่คืออนาคตของลูกหลานของท่าน ซึ่งผมนายกฯ และรัฐบาลเป็นคนทำมาตลอด 2 รัฐบาลที่ผ่านมาที่ผมอยู่ตรงนี้ ไม่เคยหยุดคิด ไม่เคยหยุดทำ แต่ที่ทำในเวลาเพียงเท่านี้ เราทำมาได้แค่นี้ ถ้ามันทำมาแล้วก่อนหน้าเยอะผมก็ไม่ต้องทำมากตอนนี้ ผมไม่โทษใคร โทษใครไม่ได้ ต้องเคารพในเสียงของประชาชน เฮ้อ (ถอนหายใจ) ขอให้ทุกคนมีความฝันร่วมกันได้ไหม ฝันดีๆ ฝันในสิ่งที่ดี เจอหน้าทะเลาะกันมันไม่น่ารัก โกรธกันก็เท่านั้น มีความฝันร่วมกันกับผมละกัน นะจ๊ะ ได้ไหม”
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุต่อไปว่า วันนี้มีความสุขจริงๆ เพราะโอกาสจะมาภาคใต้ไม่เยอะมากนัก แต่ถึงไม่มาก็ติดตามให้มากที่สุดผ่านกลไกที่มีอยู่ รับฟังความคิดเห็นประชาชนไปด้วย มีอะไรก็ส่งถึงนายกรัฐมนตรีได้ หรือเขียนจดหมายถึง ก่อนจะแหย่เล่นและยิ้มว่าจดหมายรักไม่ต้อง อยากให้ผ่อนคลาย และให้หน่วยงานรับนโยบายไปทำ ปีหน้าต้องพุ่งเป้าเรื่องเกษตรและยกระดับรายได้ให้ได้
ในช่วงหนึ่งมีประชาชนถามถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยิ้มและตอบว่าก็มีเรื่องๆ ทยอยให้ไปทีละงวด ซึ่งรายได้นั้นมาจากภาษี แต่เก็บได้ต่ำกว่าเป้า ไม่ใช่ความผิดใครเพราะมีสถานการณ์โควิด-19 เข้ามาด้วย คนใช้หนี้คือรัฐบาล พยายามจะให้เกิดผลกระทบประชาชนน้อยที่สุด สิ่งเดียวที่จะแก้ปัญหาโควิดและการเปิดทุกอย่างได้คือการฉีดวัคซีน และต้องฉีดทั้ง 2 เข้ม ไม่ต้องไปกลัวโควิดโอมิครอน (Omicron) หรือสายพันธุ์ไหน ถ้าทุกคนฉีดวัคซีนจะลดความรุนแรงและลดการเสียชีวิต ส่วนการแพร่ระบาดการกระจายเป็นเรื่องของมาตรการ พร้อมกันนี้ ขอให้ระวังการประกอบพิธีทางศาสนา รวมถึงพูดคุยกันอย่าถอดหน้ากาก ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “นายกฯ มาด้วยความคิดถึง คิดถึงจังฮู้” จากนั้นเดินพบปะพุดคุยกับประชาชน และบอกว่านายกรัฐมนตรีต้องการกำลังใจเท่านั้น
สำหรับกำหนดการของนายกรัฐมนตรีในลำดับต่อไป จะเป็นประธานมอบนโยบายการบูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ งานด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้นเวลา 13.45 น. เดินทางพบปะสมาชิกกลุ่มเลี้ยงปูทะเล และประชาชนที่เชื่อมโยงกลุ่มอาชีพเลี้ยงปูทะเลไปยังอาชีพอื่น ณ ศูนย์เรียนรู้การเพาะเลี้ยงปูทะเล บ้านโต๊ะโสม ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี โดยหลังเสร็จสิ้นภารกิจจะเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงเย็นวันเดียวกัน.
ที่มา thairath